Wednesday, December 15, 2010

น้องแหล จิ...จิ...จิ...

ก็ในเมื่อเรามีน้องตอ เราก็ต้องมีน้องแหล เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเราเอ่ยถึงน้องตอไปแล้ว งั้นวันนี้ขอเอ่ยถึงน้องนิดหนึงก็แล้วกัน เดี๋ยวเค๊าจะเสียใจ จิ...จิ...จิ...

ณ กาลครั้งหนึ่ง น้องแหลของเราก็เป็นเพื่อนซี้ของน้องตอนี่แหละ แต่ด้วยความที่ว่า ตอกันไป แหลกันมา มันก็เลยเห็นไส้ เห็นพุงกันไปหมด น้องแหล ก็เลยขอแยกทางกับน้องตอเป็นการชั่วคราว แต่คิดว่า วัน เดือน ปี ผ่านไป ทั้งน้องตอ และน้องแหล ก็น่าที่นะกลับมาเป็นเพื่อนซี้กันอีกรอบ เพราะทั้งสองคนเป็นกิ้งก่าด้วยกันทั้งคู่ คือเปลี่ยนสีกันได้บ่อย แล้วแต่สถานการณ์ ถึงตอนนั้น เราก็น่าจะสร้างหนังไทยน้ำเน่า เรื่อง "น้องตอ และน้องแหล return" ถึงตอนนั้นเราก็น่าจะแจกยาฆ่ายุงกัน เพราะยุงมันคงจะชุมน่าดู

พรรบทมานาน เอาเป็นว่า เข้าเรื่องน้องแหลของเราดีกว่า เดี๋ยวเค๊าจะเสียใจ

น้องแหล ปกติแล้วก็เป็นคนที่ไม่ค่อยมีพิษมีภัยเท่าไหร่ ถ้าเปรียบเทียบกับน้องตอ เพราะน้องแหล ชีวิตของเธอก็ค่อนข้างจะเรื่อยเปื่อยอยู่แล้ว เธอก็แหลไป แหลมา ไม่ค่อยมีจุดหมายอะไรกับชาวบ้านเค๊าสักเท่าไหร่ แต่ละวันก็หายใจทิ้งไปวันๆ เพราะว่าชีวิตไม่มีอะไรที่ต้องเดือดร้อนสะเท่าไหร่

เอาเป็นว่าชีวิตน้องแหลหนะ ออกแนวชิวๆก็แล้วกัน เธอก็จะชิวไป แล้วก็ชิวมา หาสาระอะไรในชีวิตไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่

น้องแหล เธอก็แหลสมชื่อ เธอก็จะสามารถลื่นไหลไปได้เรื่อยๆ ปลาไหลยังอาย เอางี้ดีกว่า น้องแหล สามารถเอาตัวรอดได้แทบทุกสถานการณ์ เพราะเธอหนะแหลได้สมชื่อจริงๆ คือชีวิตนี้เกิดมาเพื่อการแหลโดยตรง...oops!!!

วัน คืน ผ่านไป ถึงแม้ว่าอายุและวัยที่มันก็มากไปตามกาลเวลา น้องแหลก็ยังสามารถผดุงอุดมการณ์ในการแหลของเธอได้ไม่เคยเปลี่ยน เคยแหลยังไง กี่ปีผ่านไปความแหลก็ยังคงเดิม ไม่เคยเปลี่ยน โอ้ พระแม่เจ้า เธอช่างมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวจริงๆ เก่งแต่เรื่องแหลๆ ถ้าเก่งเรื่องอื่นๆด้วย อะไรหลายๆอย่างในชีวิตก็น่าจะดีกว่านี้

แต่ถึงยังไงเสีย น้องแหล ก็ยังดีกว่าน้องตอ อยู่บ้างเล็กน้อยที่เธอไม่ค่อยทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านสักเท่าไหร่ ชีวิตเธอก็สนุกไปวันๆ แหลไป แหลมา เก็บ เลี้ยง ไว้ดูเล่น ก็ดีเหมือนกัน

Wednesday, December 8, 2010

น้องตอ จุ๊.... จุ๊.... จุ๊....

วันนี้พี่ J มีนิทานจะเล่าให้ฟัง ฉะเอิ่งเอิงเอย

กาลครั้งยังไม่นานเท่าไหร่ มีน้องตอคนหนึ่ง เธอพูดจาอ่อนหวาน ก้นเปรี้ยวหรือเปล่าไม่รู้นะ ลองไปชิมกันเอาเองก็แล้วกัน รู้แล้วมาบอกพี่ J ด้วย

เอ๊า เข้าเรื่องของน้องตอกันต่อ นอกจากเธอจะพูดจาอ่อนหวานแล้ว เธอก็ยังแอ๊บแป๊ว ทำตัวเป็นเด็กไร้เดียงสา บางทีเราก็เดาไม่ออกว่า โง่จริง หรือแกล้งโง่ แต่อะไรก็ตามแต่ น้องตอเธอขอแอ๊บแป๊วไว้ก่อน เอาเป็นว่า น่ารัก ไร้เดียงสาไว้ก่อน บางทีเธอก็ลืมไปเลยว่า เธอหนะเกินวัยแอ๊บแป๊วไปนานแล้ว จุ๊.... จุ๊.... จุ๊...

ที่น่าสมเภทที่สุดก็คือ น้องตอ จะตอไปเรื่อยเปี่อย สร้างภาพไปเรื่อยว่าเธอ innocent แต่หารู้ไม่ว่า จริงๆแล้วเจนโลก และโชกโชนมาหลายรูปแบบ แบบใหนเหรอ จุ๊.... จุ๊.... ไม่บอก

พอคนเริ่มรู้ธาติแท้ของเธอ น้องตอก็หลบหน้าหายไปพักหนึง จู่ๆเธอก็โผล่เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ตอไปว่า อุ๊ย เดินผ่านมาทางนี้ เลยแวะมาหา เออ แปลกเน๊อ แล้วที่ผ่านๆมา มันไม่เคยเดินผ่านมาทางนี้เลยเหรอวะ คนแบบนี้ก็มีด้วย กรวดน้ำค่ำขัน เราพบกันชาติเดียวนะน้อง จุ๊.... จุ๊.... จุ๊....

เอ๊ะ แล้วคนที่อ่านอยู่ตอนเนี๊ยะ หนูชื่อน้องตอหรือเปล่าเนี๊ยะ... จุ๊.... จุ๊.... จุ๊....

Monday, December 6, 2010

ชินชา

เคยรู้สึกเบื่อบ้างมั๊ย เคยรู้สึกเซ็งบ้างมั๊ย มีอะไรหลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วมันทำให้เรารู้สึก numb และชินชา บ้างมั๊ย ถ้าใครที่มีความรู้สึกอย่างนั้นหละก็ Welcome to my world เพราะว่าตอนนี้ มีความรู้สึกอย่างนี้อยู่ อย่างแรง

หลายอย่างที่เป็นอยู่ หลายอย่างที่ผ่านเข้ามา มันทำให้เรารู้สึกชินชา กับสิ่งที่เป็นอยู่ มันทำให้เราเบื่อ หน่าย และเซ็ง หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่บางทีเราทำไป พร่ำพูดไป มีหลายๆอย่างที่เราต้องการทำ ต้องการปรับปรุง ต้องการ improve แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เพราะถ้าเราเป็นคนบอก เป็นคนพร่ำพูด เป็นคนเสนอ แต่ไม่มีคนสนอง หรือคน ที่บางทีก็สนองแค่ผิวๆเผินๆ อีกไม่นาน ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม

ชีวิตมันก็เลยเริ่มที่จะชินชา และตายด้านไปความรู้สึกเหล่านี้ 

แต่ถ้าจะมองในอีกมุมมองหนึ่ง มันก็ดีเหมือนกัน มันเริ่มทำให้เราปลง มันเริ่มทำให้เราเลิกที่จะสนใจคนอื่น มันเริ่มที่จะทำให้เราหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น มามองเข้าไปข้างในของตัวเราเองว่า เราต้องการอะไรในชีวิต มันทำให้เราหันกลับมาดูแล และเอาใจใส่ตัวเราเองมากขึ้น 

ก็ถือสะว่า เราเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสก็แล้วกัน