Friday, August 6, 2010

ก็เพราะชีวิตมันคือการแข่งขัน

เคยเหนื่อยมั๊ย เคยท้อบ้างมั๊ย

พี่ J เคยมีความรู้สึกแบบนี้ เป็นช่วงๆ แว๊บๆเข้ามาในหัวสมองบ้างเป็นบางครั้ง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องแหงนหน้าขึ้นฟ้า แล้วก็สู้ชีวิตกันต่อไป จะทำอะไรในชิวิตนี้รู้สึกว่ามันจะมีการแข่งขันกันเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด โลกใบนี้ทำไมมันถึงเต็มไปด้วยการแก่งแย่ง แข่งขัน กันยังเลยนะ มีความรู้สึกเลยว่า เนี๊ยะมัน part of the game, part of life เลยจริงๆ

ถ้าคิดจะหลีกเลี่ยงการแข่งขัน การแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น ก็คงโน่นแหละ หนีไปอยู่ป่า ไปอยู่เขา ซึ่งหวังว่าสักวันเราคงได้มีโอกาสหลบหนีความวุ่นวาย ไปใช้ชิวิตแบบนั้นมั่ง แต่ไปอยู่แบบกระเป๋าแห้งๆ เราก็คงไม่ไปหรอก งั้นตอนนี้ขออยู่เพื่อต่อสู้ชิวิต และอยู่ในวงจักรของการดำเนินชิวิต ทำธุรกิจ และแข่งขันกันต่อไป

ชีวิต และธุรกิจคือการแข่งขัน แข่งขันกับใครเรามั่นใจว่าแข่งได้ แต่ไอ้การที่ต้องมาทำการแข่งขันกับคนที่เรารู้จักมักจี่กันเนี๊ยะ บอกได้เลยว่าแสลงใจ เกิดมาในชิวิต เราจะคิด จะทำอะไร เกรงใจคนรอบข้างเสมอ (มิน่าหละ ถึงมีแต่คนเค๊าเอารัดเอาเปรียบ) ไม่เคยคิดที่จะไปแข่งขัน หรือชิงดีชิงเด่น หรือสร้างความหมางใจกับคนที่เรารู้จักเลย ไอ้คนที่เราไม่รู้จัก เราก็จะบอกว่า "ช่างแมร่ง" แต่คนที่เรารู้จักเนี๊ยะ รับรองเราไม่ไปทำเค๊าแน่นอน

แต่ทำไมนะคนๆอื่นไม่คิดแบบเรามั่ง ทุกคนก็จะบอกว่าธุรกิจก็คือธุรกิจ ความเป็นเพื่อนก็อยู่ส่วนความเป็นเพื่อน จริงๆมันก็ใช่หนะนะ แต่ถ้าต้องมาทำธุรกิจแข่งขันกันเองแล้ว คิดเหรอว่าความสัมพันธ์จะยังคงเหมือนเดิม มันต้องมีอะไรที่ corner of หัวใจมั่งแหละ บอกว่า เฮ้ย ไม่ใช่หละ เราคงจะมาทำตัวเหมือนเดิมก็คงลำบาก ทำหนะทำได้ แต่ก็คงต้องแค่ผิวเผิน จะอะไรลึกซึ้งมากไปกว่านั้น คงไม่ใช่แล้วหละ

ไม่เชื่อหรอกว่า Coles จะรัก Woolworths ได้ และก็ไม่ใช่เชื่อว่า Caltex จะรัก Shell ได้ และก็ไม่เชื่อหรอกว่า Pepsi จะมารัก Coke ได้ลงคอ ถ้าจะรักกัน ก็คงฝืดๆ เฝื่อน ลองเอา Pepsi ผสม Coke ดูสิ

ขนาดจะมีชิวิตอยู่บนโลกใบนี้ ก็ยังต้องไปแย่งอากาศคนอื่นหายใจเลย จะเอาอะไรมากมายกับโลกใบนี้