Wednesday, August 28, 2013

โลกตอแหล

สังคมโลก online เริ่มตอแหลขึ้นทุกวัน ไม่รู้นะว่าที่อื่นเป็นยังไงแต่รู้ว่าฟรั่งที่ Australia เนี๊ยะชอบพูดหรือทำอะไรเกินจริงมาก อะไรต่ออะไรมันดู plastic และจอมปลอมไปหมด

วันก่อนเราได้ไปประชุมที่มหาลัยแห่งหนึ่งในซิดนีย์ เจอคุณยายหนังเหี่ยวคนหนึ่ง เป็นดอกเตอร์ หน้าเนี๊ยะเหี่ยวหมดแล้วหละแต่ยังแต่งตัวเฟี้ยวอยู่ ตามสไตล์ฟรั่งออสซี่ทั่วๆไป ดูเธอตัวจริงเนี๊ยะก็แก่หนังเหี่ยวแล้วนะ แต่ว่ารูป profile ของหล่อนใน Google+ หรือ twitter และรูปที่ใช้ใน powerpoint สงสัย เป็นรูปที่สมัยยังสาว 10-20 ปีที่แล้ว เห็นแล้วเราก็คงเอ๊ะ คนเดียวกันหรือเปล่าวะ โอโหป้า/ยาย หลอกลวงประชาชนหนี่หว่า

คุณยายก็ present งานของเธอไป เราเห็นแล้วก็งั้นๆแหละ ไม่ได้ดีเลิศประเสริจศรีอะไร แต่เรากลับมาถึงบ้านนะ ยายแก post นั่น นี่ โน่น ลงใน Google+ และ twitter ของแก แกก็พล่ำรำพันว่า seminar ที่ผ่านมา ดีเลิศประเสริจศรี อย่างงี้อย่างโง้น ไอ้เราก็งง เอ๊ะ งาน seminar เดียวกันหรือเปล่าวะ ดูคุณยายแกพยายาม up herself มากเลย เห็นแล้วก็ขำๆ เพราะคนที่ไม่ได้ไปงานนี้ หรือไม่ได้เจอคุณยายตัวเป็นๆ ก็คงจะหลงคล้อยตามไปด้วย

ก็รู้แหละนะว่า ยายแกเป็นพวก positive thinker เราเองก็เป็นพวก positive thinker เหมือนกัน แต่เราไม่ได้หลับหูหลับตา เห็นอะไรจับอะไร เป็น positive ไปหมดซะทุกอย่าง พอประชุมเสร็จ ยายแกก็ post นั่น นี่ โน่น ต่างๆนาๆ ลงใน twitter มั่ง Google+ มั่ง ว่าโอ้โฮเป็น seminar ที่ดียังงั้นยังงี้ ไอ้เราก็เอ๊ะ เราไปงานเดียวกันป๊ะหวะเนี๊ยะ ก็ไม่เห็นว่ายายแก present งานได้ดีอะไรมากมาย สงสัยยายแกอยู่ในโลก online มากเกินไป

นอกจากนั้นยังไม่พอ พวกคนที่ไปประชุม หรือ seminar ด้วยก็เวอร์ ตอแหล กันไปตามๆกัน twit กันใหญ่เลยว่าเป็นการประชุมที่ดี มีประโยชน์ นั่น นี่ โน่น มันก็มีประโยชน์หนะนะ แต่ไม่ได้ดีเวอร์เหมือนพวกเธอๆหล่อนๆ twit กันเอาไว้ เราก็รู้สึกเฉยๆ สงสัยเราฉลาดเกินมั๊ง เลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่พวกป้าๆลุงๆทั้งหลายที่ไป seminar ด้วยกันนี่สิ overrated โฆษณาชวนเชื่อเกิน สรุปคือ ตอแหล นั่นแหละ ง่ายๆ

Monday, August 26, 2013

Do not judge the book by its cover....

2-3 วันก่อน พี่ J ได้เจอคนไทยคนหนึ่ง ดูๆแล้วอายุน่าจะน้อยกว่าพี่ J แต่เธอก็มากับสามีฟรั่ง มีอายุมาก และก็มีลูกเล็กๆด้วย

เนื่องด้วยว่าเราเจอผู้หญิงคนไทยอายุน้อยๆที่แต่งงานกับผู้ชายออสซี่ฟรั่งมามากแล้ว จะแต่งด้วยความรักหรือความจำเป็น เราไม่รู้ แต่เท่าที่สังเกตุ ก็จะเป็นประเภทหลังมากกว่า เราก็เลยรู้สึกเอือมๆนิดหนึ่ง เราก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมาก ก็แค่คิดว่าเออ อีกคู่หละ คงไม่ต่างจากคู่อื่นๆที่พบเห็นมา

จนได้มีโอกาสได้พูดคุยกับพวกเค๊าทั้ง 2 ทั้งผู้หญิงไทย และสามีฟรั่งแก่ของเค๊า เออ ปรากฏว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิดเสมอ stereotype หรือ generalization เนี๊ยะ มันใช้ไม่ได้จริงๆ เพราะทุกคนก็เป็น each individual ใครมัน น้องผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกัน ดูเค๊ารักสามีและลูกจริงๆ ส่วนสามีก็สุภาพนอบน้อมเหมือนคนไทย ดูๆไปแล้วก็เหมาะกันดี ถึงแม้ไวจะต่างกันไปนิด ก็ไม่เป็นไร เออ อายุเนี๊ยะ มันเป็นเพียงแค่ตัวเลขจริงๆ

ประสบการณ์ในครั้งนี้มันก็ทำให้เรารู้ว่า เออ ดูคนจากภายนอกไม่ได้จริงๆ หรือคิดเหมาไปว่า เค๊าคนนั้น เธอคนนั้น จะเหมือนคนอื่นๆ คนหมู่มากไม่ได้

เราคงต้องหันมามองคนอื่นให้ลึกซึ้งให้มากกว่านี้แล้วหละ คงไม่รีบ judge ใครเพียงเพราะเหมาเอาภาพรวมให้เหมือนกับคนอื่นอีกแล้วหละ

We are still learning everyday....don't we??

พี่ J