Sunday, April 24, 2016

การให้ การปลดปล่อยและปล่อยวาง


เคยมั๊ยที่เรายึดติด ยึดถือ และยึดมั่นกับอะไรมากๆ เราก็จะผูกพันและรู้สึกว่าเป็นพันธะ แต่รู้มั๊ยว่าถ้าอยู่นานๆไปมันก็อาจจะกลายเป็นภาระก็ได้นะ...

แต่ถ้าหากเรารู้จักการปล่อยวาง การไม่ยึดมั่นถือมั่น แล้วชีวิตเราก็จะสบาย เบา ไม่หนัก

การปล่อยวาง การไม่ยึดมั่นถือมั่นสามารถปฏิบัติและทำกันได้ง่ายๆ เริ่มจากจุดเล็กๆน้อยๆที่บ้าน

ชีวิตคนเราในปัจจุบัน หลายๆคนเป็นคนชอบสะสม สะสมสิ่งของที่เราไม่ใช้แล้ว หรือเลิกใช้แล้ว อย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ของเล่นเด็กๆ ของเล่นของลูกๆ เพราะพอเขาเริ่มโตกันแล้ว เขาก็จะไม่เล่นสิ่งของพวกนั้นแล้ว นั่นก็รวมไปถึงเสื้อผ้าของเด็กๆด้วย เพราะเด็กๆจะโตไวมาก เผลอแป๊บเดียว เสื้อผ้าเขาก็ใส่ไม่ได้แล้ว

ลูกลิงที่บ้านจะมีของเล่นเยอะมาก แต่ตอนนี้ลูกลิง 2 ตัวก็เริ่มที่จะโตกันแล้ว เราก็เลยต้องบอกว่า ทุกเสาร์-อาทิตย์ลูกลิงจะต้องนำเอาของเล่นที่เขาเลิกเล่นแล้ว ให้นำเอาออกมาวางไว้ที่หน้าบ้าน เผื่อให้คนที่เดินผ่านไปมาถ้าใครอยากได้ก็ให้เขาหยิบเอาไป หรือเด็กคนใหนที่เดินผ่านไปมา ถ้าเขาอยากได้ก็ให้เขาหยิบเอาไป เราให้ทำอย่างนี้ทุกอาทิตย์และก็ทำกันมานานแล้ว แต่ก็มีบ้างที่บางอาทิตย์เราก็ลืม

ลูกลิงรู้ดีว่าจุดประสงค์ของพ่อคืออะไร เพราะจริงๆแล้ว คนๆหนึงเขาจะเล่นของเล่นสักกี่ชิ้นกันเชียว เล่นแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เบื่อ ที่บ้านเราจะไม่ค่อยซื้อของเล่นให้ลูก ที่ได้มาเยอะแยะก็จะมาจาก ยายๆ น้าๆของเขามากกว่า และก็ของขวัญตามวันอะไรต่างๆจากคนอื่น ไม่ได้มจากการซื้อสักเท่าไหร่ 

เราสอนลูกให้รู้จักการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้รู้จักการเป็นผู้ให้ ในขณะเดียวกัน ถ้าเราจะมองในมุมที่กว้างไปกว่านั้นก็คือ การปลูกฝังนิสัยเด็ก ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่น ฝึกกันไว้ตั้งแต่เด็กๆเลย และลูกลิงเองก็รู้กันว่า ของเล่นของเขาที่เขาเลิกเล่นอันใหนที่ยังอยู่ในสภาพดี เราเอาไปวางไว้หน้าบ้านให้คนอื่นมาเอา เป็นก็เป็นการแบ่งปันให้เด็กคนอื่นเขาได้มีโอกาสเล่นของเล่นเหล่านั้นบ้าง แบ่งๆกันไป เป็นการสอนให้เด็กไม่เห็นแก่ตัวไปด้วยในตัว บางสิ่งบางอย่างเราก็ต้องปลูกฝังเด็กตั้งแต่เล็กๆ เด็กจะได้จดจำและทำจนเป็นนิสัย

จำได้เสมอว่า "ไม้อ่อนตัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"

ส่วนเราที่เป็นผู้ใหญ่ ก็ดีออก บ้านจะได้ไม่รก ทุกอย่างจะดูสะอาดตา น่าอยู่ ไม่รกรุงรัง เพราะปัญหาของบ้านหลายๆหลังคือ "ของเล่นลูกเต็มไปหมด"

แต่ถ้าหากเรามองไปให้ไกล ในมุมก็กว้างมากกว่านี้ มันก็เป็นการปล่อยวาง และการปลดปล่อยอีกอย่างถึง คือเราไม่ยึดติดกับวัตถุสิ่งของ ถ้าทุกคนที่บ้าน ไม่ว่า พ่อแม่ลูก ทุกคนทำกันเป็นนิสัย บอกได้เลยว่า บ้านหลังนั้นจะเป็นอะไรที่แลดูน่าอยู่มาก ทุกอย่างจะเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะของบางอย่างที่เราหรือลูกๆเขาไม่ใช้แล้ว เราเก็บเอาไว้ให้ฝุ่นมันเกาะเฉยๆ ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย

หลายๆครอบครัวชอบที่จะทำการโล๊ะของกันครั้งใหญ่ๆ นานๆทำที และทำทีเดียวใหญ่ๆไปเลย แต่เราชอบที่จะทยอยทำความทำสะอาดไปทีละเล็กทีละน้อยมากกว่า ทำทุกๆอาทิตย์ ด้วยการเอาของอะไรที่เราไม่ใช้แล้วไปวางไว้ที่หน้าบ้าน แต่เราก็จะเน้นไปที่ของเล่นของลูกมากกว่า เพราะของบางอย่างเป็นอะไรที่ลูกๆเขาเลิกเล่นแล้วจริงๆ ส่วนของพ่อกับของแม่ก็นานๆที

ครอบครัวใหนอยากจะลองนำเอาไปทำกันดูก็ลองกันได้นะครับ โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าเป็นอะไรที่ดี เพราะมันทำให้เรารู้จักการปลดปล่อยและปล่อยวาง...

โดยเฉพาะเราฝึกและหัดกันไว้ตั้งแต่เด็กๆเลย...

Sunday, April 10, 2016

อย่าหลอกตัวเอง


มีน้องคนหนึ่งประสบปัญหาเรื่องชีวิตรัก แฟนน้องได้แยกบ้านออกไปอยู่เองต่างหาก และแฟนน้องเองก็มีแฟนใหม่ไปแล้วเรียบร้อย แต่แฟนน้องเองก็ยังติดต่อ พูดคุยกับน้องอยู่ น้องก็เลยแอบมีความหวังว่าแฟนน้องจะกลับมาหา เราก็ไม่เข้าใจนะว่า แฟนเก่าของน้องคนนี้เขาคิดอะไร ยังไง ที่ติดต่อพูดคุยกันเนี๊ยะ เพราะคิดว่าเป็นเพื่อน หรือว่าทำไปเพื่อเผื่อเลือก หรือว่าแอบให้ความหวังกับน้องคนนี้หรือเปล่า

ส่วนตัวน้องเอง ก็แอบมีความหวังว่าเขาคนนั้นจะกลับมา ว่างั้นเถอ อะไรกันเนี๊ยะ ชีวิตคนเรา มันไม่มีความหมาย มันไร้ค่ามากมายขนาดนั้นเลยเหรอ ที่คนเราต้องมานั่งรอคอยการกลับมาของใครสักคน

แฟนของน้องเขาเลือกที่จะแยกทางกับน้องไปแล้ว เขาเป็นฝ่ายทิ้งน้องไปเอง แล้วน้องจะมามัวหวังลมๆแล้งๆว่าเขาจะกลับมาได้ไงเนี๊ยะ เราเองก็ไม่เข้าใจ

แต่ก็อย่างว่าแหละ เด็กๆบางคนก็อ่อนโลกกันสะเหลือเกิน ชอบคิดว่าโลกสวย แต่ก็อย่าว่าแต่เด็กเลยนะ ผู้ใหญ่บางคนก็เหมือนกัน ชอบคิดเข้าข้างตัวเอง ให้ความหวังลมๆแล้งๆกับตัวเองไปวันๆว่าเขาอาจจะกลับมา

คนเราเหรอ ถ้าเขาเลือกที่จะทิ้งเราไปแล้ว ทำไรเราต้องไปง้อหรือหวังว่าเขาคนนั้นจะกลับมาด้วยละ

ถ้าเขารักเราจริง เขาก็คงไม่ทิ้งเราไปตั้งแต่แรก อย่ามัวหลอกตัวเองไปวันๆเลย สู้เราเอาเวลาเหล่านั้นมาฉุกคิดดีกว่าว่า สรุปแล้วเราจะเอายังไงดีกับชีวิต จะเลือกเดินไปทางใหนดีกัน ชีวิตเราต่อไป จะเอายังไงดี จะเดินหน้าไปยังไง จะไปซ้ายหรือจะไปขวาดี เพราะเราจะมามัวปล่อยชีวิตเราเพื่อรอใครสักคนให้เขากลับมาหนะ มันก็ยากและเป็นการเสียเวลา

เราก็ต้องคิดด้วยว่า ถ้าเขากลับมาแล้ว ทุกอย่างจะเหมือนเดิมมั๊ย แก้วที่มันร้าว ไม่นานมันก็คงจะแตก แก้วที่แตกแล้ว จะกลับเอามาซ่อมแซมทากาวติด กาวยาใจ กาวประสานใจ อะไรต่ออะไรก็คงจะไม่เหมือนเดิม

สู้เราเอาเวลามาสู้กับความเป็นจริง มาเผชิญชีวิตความเป็นจริงจะดีกว่ามั๊ย ชีวิตเรามันต้องมีค่ามากกว่านี้สิ เราควนจะทำอะไรให้กับตัวเอง ทำชีวิตตัวเราเองให้ประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงาน และชีวิตส่วนตัว หาความสุขให้กับตัวเอง ให้อีกฝ่ายเขานึกเสียดายเราสิ ถึงตอนนั้นเราก็คิดว่า ตัวน้องเองคงจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้เยอะแยะเข้ามาในชีวิต หรือหากน้องเลือกที่จะอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว มันก็ดีไปอีกแบบนะ

ชีวิตเรา เราเลือกได้ เราออกแบบได้ อย่าให้ใครบางคนมากำหนดหรือบงการชีวิตเรา

ชีวิตเรา เราต้อง take control.... เลิกหลอกตัวเอง 

เผชิญหน้ากับความเป็นจริง ทั้งกับความทุกข์หรือความสุขที่เข้ามาในชีวิต เราต้องรับมันให้ได้เสมอ

ก็แนะนำให้เราคิดกันว่า ชีวิตนั้นมีค่าเสมอ ใครไม่เห็นค่าของเราก็คงต้องปล่อยเขาไป ก็แค่นั้นเอง เราก็ควรดำเนินชีวิตเราไปตามปกติ บาดแผลในใจเหรอ ให้เวลามันสักหน่อย ช้าบ้าง เร็วบ้าง มันก็คงจะหายไปเอง 

แต่ที่แน่ๆคือ เราจะต้องไม่หลอกตัวเอง

Saturday, April 2, 2016

คนล้มอย่าข้าม


ชีวิตมนุษย์เรานั้นมีล้มได้ มีผิดพลาดได้ แต่นั่นมันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต เราพลาดหรือทำอะไรล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องพลาดหรือล้มเหลวตลอดไป

คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์ด้วยกัน เราต้องให้โอกาสซึ่งกันและกัน ไม่มีการเหยียดย่ำซ้ำเติม ทำตัวเป็นไหล่ให้คนซบ คนล้มอย่าข้าม เพราะวันหนึ่งเขาอาจจะลุกขึ้นมาผงาดและโดดเด่นอีกก็ได้

ใครที่ทำอะไรผิดพลาดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจหรือการดำเนินชีวิตทั่วไป เราก็ขอเป็นกำลังใจให้

แต่คนที่คอยฉวยโอกาส และชอบเหยียบย่ำซ้ำเติมคนอื่น เราก็ขอประนามก็แล้วกัน อย่าให้ตัวเองพลาดมั่งก็แล้วกัน

คนเราการพูดการจา การแสดงกิริยาท่าทางมันแสดงออกถึงความเป็นตัวตนและธาตุแท้ เราคิดว่าคนอื่นสามารถสัมผัสได้ การที่คนเราไปเหยียบหย่ำซ้ำเดิมคนอื่น เราคิดว่ามันทำให้ค่าของความเป็นคนมันลดลงไปนะ

แต่ก็เอาเถอะก็คิดเสียว่า คนเหล่านั้นเขาคงคิดได้แค่นั้นจริงๆ คนเรามีหยักไม่เท่ากัน เราก็คงต้องปล่อยเขาไป และก็จะคอยดูอยู่ห่างๆว่า เขาจะล้มหรือเปล่า จะพลาดมั๊ย

ส่วนใครที่ล้ม ใครที่พลาดพลั้งอะไรไปก็ไม่เป็นไรนะครับ เราขอเป็นกำลังใจให้อยู่ห่างๆ

ตราบใดที่เรายังไม่สิ้นลมหายใจ เราก็คงต้องสู้กันต่อไป ก็เลือกที่จะเกิดมาใช้กรรมกันแล้วหนิ.... ใช่ป๊ะ???

ความล้มเหลว ความผิดพลาดเหรอ ก็ดีออก มันสอนให้เราเข้มแข็ง มันสอนให้เราสู้ มันสอนให้เรารู้ว่า ชีวิตนี้มีกรรม...