เคยมองไปรอบๆตัวเรา รอบบ้านเราบ้างมั๊ย
เคยสังเกตุหรือเปล่าว่าทำไมเราถึงมีสิ่งของ นั่น นี่ โน่น มากมาย
ทุกสิ่งอย่างเป็นของนอกกาย ตายไปก็เอาไปไม่ได้สั่งอย่าง
ของยิ่งเยอะ ปัญหายิ่งมาก ย้ายบ้านที ก็วุ่นวาย
เก็บเอาไว้เราก็ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว คนเราเนี๊ยะ ชอบยึดติดกันจริงๆ
2-3 เดือนที่ผ่านมา พี่ J ลอง "ให้" ทุกวันเสาร์ คือ ทุกวันเสาร์เนี๊ยะ พี่ J ก็เริ่มมองๆหาหละ ว่าของอะไรในบ้าน ของอะไรของเราที่ปกติเราก็ค่อยได้ใช้แล้ว แต่ถ้าให้คนอื่น มันคงจะเป็นประโยชน์มากกว่าอยู่กับเรา
เสื้อผ้าบางตัว ก็เอาไปบริจาคที่ศูนย์รับบริจาคใกล้ๆบ้าน
ของเล่นลูกๆ พี่ J ถามเด็กๆก่อนว่ายังจะเล่นอยู่มั๊ย ถ้าไม่เล่น เราก็เอาไปวางไว้หน้าบ้าน คนเดินผ่านไปมา เค๊าก็เอาไปใช้ต่อเอง
หนังสือที่ชอบเก็บสะสมเหลือเกิน เก็บมานานหลายปี เก็บไว้ก็อยู่แค่บน bookshelf สู้แจกๆคนอื่นให้เค๊าได้อ่านกันมั่งก็ดี ก็มีหนังสืออ่านเล่นภาษาไทยเยอะพอสมควร พี่ J ก็ทยอยส่งไปให้หลานๆ เด็กๆที่เมืองไทยอ่านกัน ถ้าจะถามว่าคุ้มค่าส่งมั๊ย มันก็ไม่คุ้มหรอก แต่มันเป็นความสุขทางใจ ที่รู้ว่าหนังสือเหล่านี้ ของเหล่านี้ ยังมีประโยชน์สำหรับคนอื่น เราเก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้แล้วหละ ยิ่งเราให้มาก บ้านเราก็ดูสบายตาไปเยอะ
textbooks บางเล่ม ก็ฝากไปให้อาจารย์ที่มหาลัย เผื่ออาจารย์จะได้ใช้ เป็นประโยชน์ต่อไป
พี่ J ไม่ได้แบบว่าทุ่มเทกับการให้ หรือบริตจาคนะ ไม่ได้แบบว่า ขนของมา ตูม บริจาค อะไรแบบนี้ ไม่ใช่
มันเป็น continuous activity ที่ทำไปเรื่อยๆ วันเสาร์ว่างๆ ก็เก็บโน่น เก็บนี่ ให้ไปอาทิตย์ละชิ้น 2 ชิ้น ทำไปเรื่อยๆ คิดว่าคนที่เค๊าได้รับก็คงมีความสุข
จะทิ้งก็เสียดายของ เก็บเอาไว้ ก็เยอะเกิน
ถือมาก ยึดติดมาก ก็หนัก
ปล่อยวาง ลด ละ เลิก ก็เบา
No comments:
Post a Comment