Sunday, September 30, 2018

ไม่โกรธ


กับชีวิต ก็มีบ้างเป็นบางทีที่เรารู้สึกว่าเราโดนเอาเปรียบ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม


ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ


เราก็บอกกับตัวเองว่า


ทุกสิ่งอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
เราจะไม่โกรธ
เราจะไม่โทษใครทั้งสิ้น
อะไรที่มันเกิดขึ้นกับเรา เราอาจจะเคยไปเอาของเขามา โดยที่เรารู้ตัว หรือโดยที่เราไม่รู้ตัว


เราให้อภัยทุกคน อย่างไม่มีข้อแม้น
หากไม่มีเขา เราก็คงไม่ได้เรียนรู้
เขาพวกนี้คือ “ครู”


เราคิดง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า "เขาคงมีความจำเป็นมากกว่าเรา" ก็แค่นั้นเอง


เราไม่ได้โลกสวย แต่เราคิดอย่างนั้นจริง ๆ


ยิ้มให้กับชีวิต
ทำงานของเราต่อไป

เราตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ชีวิตนี้เราต้องการที่จะทำอะไร
เป้าหมายชีวิตของเราชัดเจน
อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ ไม่ทำให้เราไขว้เขวได้หรอก


คิดการใหญ่ ใจต้องนิ่ง


ปล่อยวาง
ให้อภัย
ให้ความรัก
ให้ความเมตตา


เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


"ททมาโน ปิโย โหติ"
ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก


รวมถึงการให้อภัยด้วยจ๊ะ และต้องให้อภัยอย่างไม่มีข้อแม้ด้วย


หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า  “ใช่สิ เธอมีพอแล้ว เธอพูดได้”


จริง ๆ แล้วเราไม่ได้ “มีพอแล้ว” อะไรเลย
ชีวิตเราก็ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง
เราไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด


แต่เรารู้จักคำว่า “พอ”
เรารู้จักความพอดี ไม่โลภ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าขี้เกียจ


ก็เพียงแค่ว่า ณ วันนี้ เราพอใจกับสิ่งที่เรามีอยู่
ชีวิตเราทุกวันนี้ก็อยู่อย่างพอเพียง และเพียงพอ ใช้หลักการนี้ในการดำเนินชีวิต ทำแล้วมันมีความสุข สุขที่มาจากข้างใน สุขที่ไม่ต้องซื้อมาด้วยเงินทอง


กับชีวิตการทำงาน มันก็อาจจะมีบ้างที่บางทีเราก็คิดว่า เราใจดีมากเกินไปหรือเปล่านะ


เราโดนใครบางคนกำลังเอาเปรียบเราหรือเปล่านะ


แต่ก็อย่างที่บอกแหละ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เราให้อภัยพวกเขาเสมอ


หรือบางทีมันก็อาจจะเป็นการสื่อสารที่ไม่ลงตัวหรือเปล่านะ


หรือบางทีมันอาจเป็นการคาดหวังอะไรที่ไม่ลงตัวหรือเปล่านะ
เราก็คาดหวังว่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเรา เขาเข้ามาด้วยความจริงใจ ไม่ได้เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์อะไรจากเรา


สุดท้ายแล้ว เราเองหรือเปล่าที่ผิด
ผิดที่ไปคาดหวังอะไรแบบนั้น
ผิดที่คิดแบบคนโลกสวยหรือเปล่า


แต่ก็ไม่เป็นนะ
“ผิด” เป็นครู
ประสบการณ์คือการเรียนรู้


ประสบการณ์ เรียนรู้ แก้ไข
เราก็คงต้องระวังตัวมากขึ้น อย่าไปคาดหวังอะไรกับใคร เพราะถ้าหากเราไม่ไปคาดหวังอะไรกับใครแล้ว เราก็จะไม่ผิดหวัง


เราก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก เราคิดง่าย ๆ ว่า ก็เพราะเขาคิดแบบนั้น เราก็เลยเป็นแบบนั้น ถ้าเขาคิดแบบเรา เขาก็คงเป็นแบบเราแล้วสิ


ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา สุดท้ายแล้ว เราเองนี่แหละ ที่สร้างมันขึ้นมา บางทีเราก็ต้องระวังตัวเราเองให้มากขึ้น เหตุการณ์อะไรต่าง ๆ จะได้ไม่เกิดซ้ำซ้อน


เหตุการณ์ทุกสิ่งอย่างในชีวิต มันมีทั้งด้านดีและด้านลบ
เหรียญมี 2 ด้านเสมอ

ให้เรามองหาด้านที่ดีก็แล้วกัน เราจะได้ไม่ “เจ็บ”

Saturday, September 29, 2018

การเปลี่ยนแปลง


ก็มีบ้างในบางช่วงของชีวิต ที่คนเราจะต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลง


ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านของชีวิตจะทั่วไป หรือในด้านของธุรกิจ หน้าที่ และการงาน


กับชีวิตของการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงบางทีเราจะมีการแพลนและก็วางแผนเอาไว้แล้วเป็นปี ๆ แล้วก็ตาม แต่พอเมื่อถึงวันที่ต้องลงมือทำจริง ๆ คนเรามันก็อดที่จะใจหายไม่ได้


โดยเฉพาะการตัดสินใจที่มีชีวิตเป็นเดิมพันที่สูง


ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจในเรื่องของชีวิตคู่
หรือว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับการทำงาน โดยเฉพาะคนเราที่ทำอะไรเป็นประจำ จนชีวิตมันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว มันเป็น routine ไปแล้ว พอมาเจอการเปลี่ยนแปลง มันก็ยากเหมือนกันนะ


ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น มันเป็นอะไรที่เราเฝ้ารอมานาน พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ เราก็อดที่จะใจหายไม่ได้ แพลน
การเปลี่ยนแปลงของแต่ละครั้ง มันก็อาจจะมีบ้างที่เรารู้สึก emotional


บางทีมันก็เป็นอะไรที่ mixed feeling
มันเป็นอารมณ์ที่แปลก อธิบายออกไม่ถูก


นี่แหละนะมนุษย์
อารมณ์ของเราบางที มันก็เป็นอะไรที่เข้าใจยากเหมือนกัน
มันก็ช่างอธิบายยากเหลือเกิน


การเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่างในชีวิต มันไม่ง่ายเลย
กับการตัดสินใจบางอย่าง บางทีมันก็ทำให้เราใจหายเหมือนกันนะ


แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น
ทุกการเปลี่ยนแปลง เราจะต้องมีเหตุผล เราจะต้องมีเป้าหมายของการกระทำที่ชัดเจน หากการกระทำที่ไม่มีเป้าหมาย มันก็จะกลายเป็นไม้หลักปักเลน ชีวิตก็คงจะไม่ประสบความสำเร็จ ย่ำอยู่กับที่ ไม่มีอะไรก้าวหน้า ไม่มีความแน่นอน


การเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง หากเราแพลน และวางแผนไว้แล้วเป็นอย่างดี หากเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ข้างในลึก ๆ ของเรา มันบอกว่า


“ทุกอย่างจะลงตัว”
“ทุกอย่างต้องโอเค”
“เราตัดสินใจถูกต้องแล้ว”


ขอเพียงแค่เรา ทำอะไรไปตามขั้นตอนที่เราวางแผนเอาไว้ ส่วนสภาพจิตใจ ความรู้สึกนึกคิดอะไรต่าง ๆ ทุกอย่างมันจะค่อย ๆ ปรับตัว ทุกอย่างมันจะค่อย ๆ ลงตัวของมันเอง ทุกอย่างจะมีการปรับตัวของมันเอง ในเวลาที่เหมาะสม


Subconscious หรือจิตใต้สำนึก จะไม่เคยโกหกตัวเรา


แต่ตัวเราเองนี่แหละ ที่บางทีก็ใช้ความรู้สึกเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ


ไม่ว่าเราจะทำอะไรยังไงก็ตามแต่
ถ้าเราเชื่อจิตใต้สำนึก ใช้จิตใต้สำนึกเป็นเข็มทิศในการดำเนินชีวิต ในการทำงาน ทุกอย่างมันต้องไปถึงเป้าหมาย ทุกอย่างมันต้องดำเนินไปได้ด้วยดี


ขอเพียงแค่เราต้องเชื่อมั่นในตัวเราเองเท่านั้น ก็เป็นพอ


ถ้าหากเราไม่เชื่อมั่นในตัวเอง
แล้วใครจะเชื่อมั่นในตัวเรา


การเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างในชีวิต ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ทุกสิ่งอย่างในชีวิต ทุกการเปลี่ยนแปลง ล้วนแล้วแต่มีอุปสรรคด้วยกันทั้งสิ้น


บางคนอาจจะสามารถจัดการชีวิตของการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าใครบางคน


ทุกคนใช้เวลาที่แตกต่างในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง


การเปลี่ยนแปลงคือการที่เราทำอะไรที่แตกต่างไปจากสิ่งที่เราทำอยู่เป็นปัจจุบัน สิ่งที่เราทำอยู่จนเป็นนิสัย สิ่งที่เราทำอยู่จนเป็น routine ไปแล้ว


มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราอยู่แล้ว คนส่วนมากไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เพราะการเปลี่ยนแปลงเป็นอะไรที่เราคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นอะไรที่ unpredictable


อะไรที่เราคาดเดาไม่ได้ คนเราก็จะรู้สึกไม่ปลอดภัย


รู้สึก insecure


คนส่วนมากชอบอะไรที่ secure
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนส่วนมากไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง


แต่หากเราไม่เปลี่ยนแปลง
ชีวิตของเราก็จะย่ำอยู่กับที่ เดิม ๆ same same
ไม่ก้าวหน้า


ชีวิตคนเราถ้าอยากจะก้าวหน้า หรือประสบความสำเร็จ
มันก็ต้องมีบ้างที่จะต้องเจออะไรที่ท้าทาย (challenge)
การเปลี่ยนแปลงมันก็เป็นอีกหนึ่งของความท้าทายในชีวิตของเรา


ดังนั้น บางทีแล้วเราก็ต้อง embrace the change แล้วก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้นซะ


กับชีวิตบางทีแล้ว เราก็ต้อง “เปลี่ยนแปลง” ก่อน
ก่อนที่ปัจจัยภายนอกจะมาเปลี่ยนแปลงเรา
เมื่อไหร่ที่เราเปลี่ยนแปลงก่อน เราก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์นั้นได้ เราจะเป็นคนถือหมากที่เหนือกว่า


แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราปล่อยให้ปัจจัยภายนอกมาเปลี่ยนแปลงเรา เมื่อนั้นแหละชีวิตเราก็จะเริ่มลำบากเพราะว่าเราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์หรือควบคุมชีวิตของเราได้


ในสังคมของโลกปัจจุบัน ดูเหมือนว่าทุกสิ่งอย่างจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นแล้วการที่เราเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงก่อน เราอาจจะเป็นผู้ชนะก็ได้


Kodak เลือกที่จะไม่เปลี่ยนแปลง Kodak จึงล้มละลายและหายไปจากโลกธุรกิจ เพราะทุกคนหันมาใช้กล้องถ่ายรูปแบบดิจิตอล ไม่มีการใช้ฟิล์มถ่ายรูปกันอีกต่อไป


Nokia บริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศฟินแลนด์ ที่ครั้งหนึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ของโลก ก็ต้องล้มหายตายจากไป เพราะตลาดของโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนของ iPhone เข้ามาครองตลาด


Motorola บริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ครั้งหนึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตโทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคม ก็โดน iPhone เข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งของตลาดไป


ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ บางคนอาจจะไม่รู้เลยว่า บริษัท Kodak คืออะไร โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Nokia หรือ Motorola เป็นแบบไหน


ดังนั้น หากวันนี้ชีวิตเราต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลง เราก็จงเผชิญหน้ากับมันซะ


เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเราก่อน

ก่อนที่ปัจจัยภายนอกจะมาเปลี่ยนแปลงเรา