การได้กลับมาเยือนเมืองไทยในครั้งนี้ก็ได้สังเกตุเห็นอะไรหลายอย่าง
โดยเฉพาะวิถีการเล่นสงกรานต์ของคนไทยสมัยนี้
เรามีความรู้สึกว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะ
สมัยก่อนเมื่อเรายังละอ่อนอยู่เราก็เล่นสงกรานต์อยู่แค่หน้าบ้านเรา
คนส่วนมากก็จะเป็นแบบนั้นคือเล่นสงกรานต์กันอยู่แค่หน้าบ้านตัวเอง อย่างมากก็ขึ้นรถกระบะ
แล้วเอาถังน้ำขึ้นรถไปแล้วก็สาดใส่คน แค่นี้ก็สนุกแล้ว
ส่วนพวกโฟนปาร์ตี้อะไรก็จะเฉพาะที่เมืองใหญ่ๆ
เมืองแห่งการท่องเที่ยวอย่างเช่น ภูเก็ต กรุงเทพ พัทยา เชียงใหม่ อะไรประมาณนี้
จริงๆก็ไม่รู้หรอกนะว่าเมืองใหนมีพวกโฟมปาร์ตี้อะไรกัน ก็เดาๆเอา
แต่ที่แน่ๆคือตอนนั้นต่างจังหวัดไม่มีกัน คือเราก็เล่นกันอยู่แค่รอบๆบ้าน
แต่ตอนนี้รู้สึกว่าแค่เมืองเล็กๆ
หรือจังหวัดเล็กๆทั่วๆไปก็มีการปิดถนน จัดงารปาร์ตี้สงกรานต์กัน
ก็เข้าใจนะว่าทางจังหวัดก็คงอยากดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจังหวัดหรือเมืองตัวเอง
ถ้าจังหวัดหนึ่งทำ อีกจังหวัดหรือหลายๆจังหวัดก็ทำตามกัน เพราะถ้าไม่ทำทางจังหวัดเองก็จะสูญเสียนักท่องเที่ยว
สูญเสียรายได้เข้าจังหวัด เข้าอำเภอ
ตอนนี้มันก็เลยกลายเป็นว่า
คนทั่วๆไปก็ขับรถเข้าเมืองใหญ่เพื่อมาสาดน้ำเล่นสงกรานต์กัน มันก็ทำให้เมืองเล็กๆ หมู่บ้านทั่วๆไปไม่มีคนเล่นสงกรานต์กันเหมือนสมัยก่อน
คนเล่นหนะก็มีอยู่ แต่ก็น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน
บรรยากาศเดิมๆมันก็หายไป ดูทุกอย่างเป็นการค้า เป็น commercialize กันไปหมด
เมืองใหญ่ๆดึงดูดคน
ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าตัวเมืองกันหมด คนเมืองเล็กๆ คนตามหมู่บ้านก็เลยไม่ค่อยมีกัน
ดูๆแล้วมันก็เหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็ก
และอีกสิ่งที่สังเกตุเห็นก็คือ
เมืองทุกเมือง จังหวัดทุกจังหวัดก็อยากจะเรียนแบบถนนข้าวสารกัน
ตอนนี้มันก็เลยมีพวกถนนข้าวๆอะไรต่างๆตามกันมา ที่เห็นๆปีหนี้แถวถนนภาคอีสารก็มี
ถนนข้าวหลาม ถนนข้าวเหนียม ถนนข้าวหอมมะลิ ดูแล้วมันก็เป็นอะไรที่ make up กันขึ้นมา เป็นอะไรที่ artificial และก็ manmade กันมากๆ
เออ
มันก็แปลกดีนะ เพราะสมัยก่อนเราไม่เคยได้ยินชื่อถนนพวกนี้
ก็เลยกลายเป็นว่าทุกเมืองต้องมีถนนพวกข้าวๆอะไรกัน
ต่อไปถ้ามันหมดชื่ออะไรแล้วก็คงจะมีถนนชื่อแปลก อาทิเช่น ถนนขี้หมา ถนนขี้ไก่
ถนนไข่เป็ด อะไรประมาณนี้
ก็รอกันต่อไปก็แล้วกันว่า
อีก 10-20 ปีข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้น
No comments:
Post a Comment