เปรียบได้กับการที่เราซื้อเมล็ดพืชมาหนึ่งถุง เราหวังที่จะรับประทานผลของมัน แต่เมื่อเราได้เมล็ดของมันมาแล้ว หากเราไม่ยอมทำอะไรกับเมล็ดนั้น ไม่ยอมเอามันออกมาจากถุง ไม่ยอมเตรียมดินผสมปุ๋ยให้มัน และไม่ยอมปลูกมันลงไปในกระถาง ท้ายที่สุดเมล็ดนั้นก็ยังคงเป็นเมล็ดอยู่อย่างนั้น ไม่มีวันที่จะเจริญเติบโต ออกกดอกออกผลไปได้อย่างแน่นอน
ไม่ต่างไปจากชีวิตของคนเรา… สิ่งที่เราทำ มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่เราไม่ทำ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ใหนมันก็จะเหมือนเดิมอยู่อย่างนั้น…
มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้มีความเหมือนกันในจุดที่ สามารถคิดได้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ หรือสิ่งใดทำแล้วจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ สิ่งใดทำแล้วอาจล้มเหลว…แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์แต่ละคนแตกต่างกันคือการเอาชนะความคิดนั้นด้วยการกระทำ…
หลายๆคนมักจินตนาการถึงแต่ความคิดที่สวยงามไว้เสมอ มีเพียงส่วนน้อยที่จะลุกขึ้นมาทำตามที่ตัวเองคิดอย่างจริงจัง เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง จึงไม่กล้าที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆ… ทำไมมนุษย์ส่วนใหญ่ถึงไม่กล้าที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหละ?... นั่นก็เพราะพวกเค๊าคิดว่า การเปลี่ยนแปลงมันเสี่ยง หากเค๊าลงมือทำบางสิ่งบางอย่างลงไป มันอาจจะเปลี่ยนแปลงออกมาในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้…คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะอยู่เฉยๆอย่างที่ตัวเองเป็น โดยที่ไม่ยอมทำอะไรเลย แม้ตัวเองคิดว่าถ้าได้ทำอะไรในสิ่งนั้นแล้วชีวิตจะมีโอกาสเจริญก้าวหน้าขึ้นก็ตาม
อย่าหยุดความคิดดีๆเอาไว้เพียงเพราะความขลาดกลัว ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกไม่มีใครสามารถเนรมิตรขึ้นมาได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป แต่มันเกิดขึ้นเพราะการกระทำของเราเอง…
จงเอาชนะความกลัวของเรา แล้วกล้าที่จะลงมือทำในสิ่งที่คิด “ทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะการันตีได้ว่า เมื่อเราทำสิ่งนั้น เราจะประสบความสำเร็จ 100% เพียงแต่ถ้าเราไม่ทำ โอกาสสำเร็จจะเป็น 0% แน่นอน…”
แล้วคุณหละ เป็นพวก “นอนคอยวาสนา” หรือเปล่า
No comments:
Post a Comment