เราคิดว่า Brickx.com ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
Brickx.com ชื่อบริษัทหรือชื่อ website ก็บอกอยู่แล้ว
Brick คืออิฐ
ซึ่งก็คือ ถ้าเราไม่มีเงินก้อนในการซื้อบ้านเพื่อการลงทุน เราก็สามารถซื้ออิฐ ตามจำนวนก้อนที่เราสามารถซื้อได้ แล้วเราก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของบ้านหรือ apartment หลังนั้นตามสัดส่วน
บ้านหรือ apartment หลังไหนมีคนเช่า เราก็จะได้ค่าเช่าตามสัดส่วน
มันอาจจะไม่เยอะมาก แต่เราก็คิดว่า มันเยอะกว่าที่จะฝากเงินกินดอกเบี้ยที่ธนาคาร
เพราะธนาคารที่เราใช้คือ ING Direct ตอนนี้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.1% ต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยมาก
แรก ๆ เราก็อยากทดลอง ลองเพื่อรู้ว่าถ้าเอาเงินมาลงทุนสัก $5,000 ก่อน มันจะเป็นอะไร ยังไง
เราก็ลองทำ เพื่อการเรียนรู้
เราก็เลือกซื้ออิฐจากบ้านหลังโน้น หลังนี้ คละเคล้ากันไปตามราคาที่เราพอจะซื้อได้ แล้วเราก็ไม่ได้ login เข้าไปดูเลย
เราก็ปล่อยทิ้งไว้ 3-4 เดือน ก็เลย login เข้าไปดู เข้าไป check ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ก็ปรากฎว่าเราได้ส่วนแบ่งค่าเช่ามาบ้างเล็กน้อย
ตอนนั้นเราก็เลย โอนเงินเข้ามาเพิ่มเพื่อเป็นการลงทุน เพราะเก็บเอาไว้ในธนาคารมันก็ไม่ค่อยได้ออกดอกออกผลอะไร
ตอนนี้เราก็เปลี่ยน strategy นิดหนึงคือ ไม่โอนเงินจากบัญชีเก็บของเราละ เงินในบัญชีเราก็เก็บเอาไว้ทำอะไรอย่างอื่น
ตอนนี้ก็ทำเป็นแบบว่า เงินรายได้บางส่วนจากการทำงาน เราไม่ได้ให้ลูกค้าโอนตังค์เข้าบัญชีธนาคารของเราละ เราให้ลูกค้าโอนเข้าบัญชีของเราที่ Brickx.com เลย แล้วก็มานั่งดูว่า แต่ละอาทิตย์มีเงินเข้ามาที่บัญชีของเรา Brixkc.com เท่าไหร่ แล้วเราก็ไล่กวาดซื้ออิฐตามบ้านหรือ apartment ที่เราต้องการซื้อ
ตอนนี้ portfoilo ของเราก็มีแล้ว 7 หลัง
มันอาจจะไม่มาก
แต่เราก็คิดว่าเป็นอะไรที่ long-term
เป็น passive income
เพราะพวกอิฐที่ซื้อมา เราก็คงจะไม่ขายออกไปหรอก ก็คงจะเก็บเอาไว้ เอาค่าเช่าบ้านไปเรื่อย ๆ ทุกสิ้นเดือน
Brick.com มีการแบ่งปันผลทุกสิ้นเดือน
เงินลงทุนก็ที่จะต้องเสียให้กับบริษัทก็เฉพาะตอนที่เราซื้อและก็ขายอิฐเท่านั้น แต่ของเรา เราก็คิดว่าจะซื้อแล้วเก็บเอาไว้ คงไม่คิดที่จะขาย (ตอนนี้)
นี่ เราก็คิดว่าจะค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ
ดูสิ ว่าจะได้ กี่มากน้อยแค่ไหน
แต่ strategy ของเราก็คือ เราไม่แตะเงินเก็บในบัญชีธนาคารเพื่อการนี้ เราจะเอาเฉพาะเงินที่ได้จากลูกค้าที่เราโอนเข้ามาให้เป็นค่าบริการ ค่าปรึกษา ซึ่งแต่ละ case แต่ละคน ก็ไม่เยอะมาก
เราก็คิดว่า ค่อย ๆ ทำไป
เก็บเล็ก ผสมน้อย
ส่วนราคาอิฐ ก็มีขึ้นลง แล้วแต่นักลงทุนแต่ละคนที่จะต้องการซื้อหรือขาย ซึ่งก็เหมือนกับตลาดหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ เราเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องราคาอิฐที่มันขึ้นลงเท่าไหร่ เราสนใจเรื่องค่าเช่า เรื่องค่าส่วนแบ่งปันผลที่ได้ในแต่ละเดือนมากกว่า ว่าได้เท่าไหร่
7 properties ที่เรามีอยู่
ราคาอิฐ ซึ่งเราจะเห็นว่า $69 ก็สามารถทำงานลงทุนได้
ก็ลองประหยัดค่ากาแฟ ค่า muffin ในแต่ละวัน แล้วเอาเงินตรงส่วนนั้นมาทำอะไรเพื่อการลงทุนดูนะครับ
$165.97 คือเงินปันผลที่ได้มา จากการลงทุน Nov 2017 - Jun 2018
ตัวเลขอาจจะดูยังน้อย เพราะช่วง Nov 2017 - Apr 2018 เราไม่ได้ทำอะไรเลย ลงทุนไปแค่ $5,000
นี่เราก็เพิ่งมาทำอะไรเป็นจริง ๆ จัง
ทำเป็นระบบ เมื่อประมาณ Apr 2018 มานี่เอง
คิดว่าได้เงินปันผลมา $165.97 ก็ดีแล้ว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรหนิ ไม่ต้องไปออกแรงแบกหาม ไม่ต้องไปขายของ ขายอะไร
บางทีเราก็ต้องเลือกที่จะให้เงินทำงานแทนเราด้วย
บางทีเราก็ต้องคิดอะไรใน long-term ด้วย
คิดทำอะไร passive income ด้วย
คนเราทำงาน ก็อย่ามัวแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำนะครับ
เจียดเงินบางส่วนที่เรามี เอามาลงทุนอะไรบ้าง
มีน้อยก็ลงทุนน้อย มีมากก็ลงทุนมาก
ทำไปตามกำลังที่เรามี
เก็บเล็ก ผสมน้อยไปเรื่อย ๆ
ลด ละ เลิก ซึ่งของฟุ่มเฟือย เราก็จะมีเงินเก็บเอามาลงทุนพวกนี้เอง โดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนแปลง lifestyle ของเราอะไรมาก
คนเราทำงาน ก็อย่ามัวแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำนะครับ
เจียดเงินบางส่วนที่เรามี เอามาลงทุนอะไรบ้าง
มีน้อยก็ลงทุนน้อย มีมากก็ลงทุนมาก
ทำไปตามกำลังที่เรามี
เก็บเล็ก ผสมน้อยไปเรื่อย ๆ
ลด ละ เลิก ซึ่งของฟุ่มเฟือย เราก็จะมีเงินเก็บเอามาลงทุนพวกนี้เอง โดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนแปลง lifestyle ของเราอะไรมาก
No comments:
Post a Comment