เราก็ไม่แน่ใจนะว่าหนังสือเล่มนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ไหน
อาจจะเป็นพวกปรัชญาชีวิต
หรือกึ่ง ๆ จิตวิทยา
แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราก็อ่านหนังสือพวกนี้มาเยอะแล้ว
ที่ซื้อและดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้มา
ก็เพราะเห็นวางขายตามร้านหนังสือเยอะแยะมากมาย
เราก็เลยขอลองซะหน่อย
พอได้ลองแล้วก็รู้เลยว่า “ไม่ใช่”
เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้ “ไม่ใช่” สำหรับเรา
อาจเป็นเพราะด้วยคุณวุฒิ และก็วัยวุฒิที่แตกต่าง
ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะ “ไม่ใช่” สำหรับเรา
แต่ก็อาจจะ “ใช่” สำหรับคนอื่นก็เป็นได้
แต่เท่าที่ฟังจาก Audio book ที่ดาวน์โหลดมา
4 บทแรกไม่มีเนื้อหาอะไรเลย
เราคิดว่าไม่คุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป
พอได้ลองแล้วก็รู้เลยว่า “ไม่ใช่”
เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้ “ไม่ใช่” สำหรับเรา
อาจเป็นเพราะด้วยคุณวุฒิ และก็วัยวุฒิที่แตกต่าง
ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะ “ไม่ใช่” สำหรับเรา
แต่ก็อาจจะ “ใช่” สำหรับคนอื่นก็เป็นได้
แต่เท่าที่ฟังจาก Audio book ที่ดาวน์โหลดมา
4 บทแรกไม่มีเนื้อหาอะไรเลย
เราคิดว่าไม่คุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป
แต่ก็ไม่เป็นไรนะ
เราต้องสามารถเรียนรู้กับทุกเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตได้
เราก็พยายามวิเคราะห์ว่า หนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้มีดีอะไรมากมาย
แต่ทำไมถึงมีวางขายอยู่ไปทั่ว
อาจจะเป็นชื่อหนังสือที่โดนใจ
อาจจะเป็นหน้าปกที่ดูแรงก็เป็นได้
จริง ๆ แล้วเราก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการตลาด
การ promote หนังสือ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้
เผื่อมันจะเป็นประโยชน์ต่อเราในภายภาคหน้า ก็อาจเป็นได้
ทุกสถานการณ์
ทุกเหตุการณ์
มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
เราพยายามที่จะมองหาข้อดี
และเรียนรู้จากทุกสถานการณ์ให้ได้
ก็เพราะชีวิตคือการเรียนรู้
ก็เพราะสถานการณ์ จะดี หรือจะร้าย มันขึ้นอยู่กับ mindset และวิธีการคิดของเรานี่แหละ
หลังจากที่ฟัง audiobook นี้ 4 บทแรก เราก็เลยเข้าไป search ใน Internet ดูว่า Mark Manson คือใคร
สรุปเขาก็เริ่มมาจากการเป็น blogger เขียน blog เรื่องความสัมพันธ์อะไรประมาณนี้ก่อน ก็เขียนเรื่องนั้น เรื่องนี้ ไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็ออกมาเขียนหนังสือ หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่ 2 ของเรา
สรุปแล้ว แค่ profile คนเขียนเราก็คิดว่าไม่ ok แล้วหละสำหรับเรา เราต้องการอะไรที่ subtle มากกว่านี้
หลังจากนั้นก็อุตส่าห์ฟังทุกครั้งที่ขับรถ ฟังไปจนหมดเล่มเพราะไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้ว
หนังสือมีทั้งหมด 9 บท
เราก็ฟังไปจนจบ
ไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไรน่าสนใจ
แต่มันก็เป็นประสบการณ์ สอนให้เรารู้ว่า ต่อไปจะซื้อหนังสือเล่มไหนมาอ่าน ให้ลองดู profile ของคนเขียนด้วย ว่าเรา ok กับ profile เขาหรือเปล่า
เราอาจจะเป็นคนเรื่องมากนิดหนึงในการอ่านหนังสือ
เพราะเราอ่านหนังสือมาเยอะแล้ว (ไม่ได้แปลว่ารู้เยอะนะครับ) เราต้องการ value for money ในการซื้อหนังสือด้วย
หนังสือเล่มนี้ เราไม่แนะนำเลย
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า "ไม่ใช่"
เพราะฉะนั้น มันถึงเป็นเช่นฉะนี้
#จอห์นเผ่าเพ็ง #เพราะฉะนั้น #มันจึงเป็นเช่นฉะนี้
Twitter: johnJPP168
YouTube channel: “John Paopeng”
No comments:
Post a Comment