ถามว่าเงินมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตมั๊ย ก็มีนะครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เงิน ต้องเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เงิน ไม่ใช่เครื่องวัดความสุขของชีวิต
คนทำงานลืมหน้าลืมหลัง พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ลูก อะไรประมาณนี้ ถ้าเป็นแบบนั้น สรุปแล้วเราทำงานตัวเป็นเกลียวหาเงินมาเพื่ออะไรเหรอ ถ้าการทำงานหาเงิน แล้วเราต้องแยกกันอยู่กับครอบครัว เจอกันอาทิตย์ละไม่กี่ครั้ง หรือกลับบ้านมา เวลาก็ไม่ตรงกับลูกๆ กลับเข้าบ้านมาตอนเช้า อยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ลูกหลับอยู่ ตื่นมาไม่ได้เห็นหน้าพ่อหรือแม่ แต่โดยส่วนมากแล้ว แม่จะคลุกคลีอยู่กับลูกมากกว่า คนที่เป็นคนออกไปทำงาน หาเงินนอกบ้าน หรือไปไกลจะเป็นพ่อมากกว่า
ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วเราจะทำงานหนัก ทำงานไกลๆจากบ้านไปทำไมหละ สู้หาอะไรทำใกล้ๆบ้านทำดีกว่ามั๊ย จะได้อยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตา เอาแค่แบบว่า มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจงน่าจะดีกว่ามั๊ย
คนที่ชอบใช้ข้ออ้างว่าต้องไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว คนเราถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วจะเรียกว่าเป็นครอบครัวได้ยังไง
คนเราชอบอ้างว่า ที่ทำงานหนัก ทำงานไกลๆบ้าน ก็ทำไปเพื่อลูก เพื่อลูก เพื่อลูก และก็ เพื่อลูก จะเรียกว่าทำเพื่อลูกได้เต็มปากเต็มคำได้หรือเปล่า ถ้าเราไม่ได้ใช้เวลาอันมีค่าอยู่กับลูกเลย
เงิน ซื้อเวลาให้กับลูกได้มั๊ย แบบนี้จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ "พ่อแม่รังแกฉัน" หรือเปล่า
สรุปแล้วการออกจากบ้านไปทำงานนั้น คนบางคนทำอะไรเพื่อตัวเองหรือเปล่า มีความต้องการที่จะออกจากบ้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือเปล่า เอาครอบครัวซึ่งตัวเองแทบจะไม่มีเวลาให้มาเป็นข้ออ้างหรือเปล่า เอาลูกที่ตัวเองแทบบจะไม่ได้คลุกคลีมาเป็นข้ออ้างหรือเปล่า
เงินทองของนอกกาย ไม่เอามาเป็นเครื่องวัดความสุขจะดีกว่ามั๊ย
เปลี่ยนจากการแยกกันอยู่ ให้มาเป็นใช้เวลาอยู่ด้วยกัน อยู่กับลูก อยู่กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครอบครัว จะดีกว่ามั๊ย
คิดว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ครอบครัวและลูกต้องการ น่าจะเป็น "เวลา" มากกว่า ยังไงเสียเราก็คิดว่าเวลานั้นมีค่ากว่าเงินเป็นใหนๆ
สองมือ ปากกัดตีนถีบ คิดว่ายังไงก็ไม่อดตาย...
No comments:
Post a Comment