แต่ก็นั่นแหละ เราเอาคำพูดอะไรต่อมิอะไรเหล่านี้มาเป็นแรงบันดาลใจดีกว่ามั๊ย เป็นแรงบันดาลใจเพื่อลบคำสบประมาทของใครสักคน
เราจำได้ว่าช่วงปีแรกๆของการเป็น อิมมิเกรชั่นเอเจนท์ (J Migration Team) เราก็ไม่ได้กำจะทำอะไรจริงจังเพราะคิดว่าลูกค้าอะไรที่ Wollongong เองก็คงไม่เยอะ ตอนนั้นเราก็ทำธุรกิจร้านอาหารของเราไป และก็ถือว่าธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจหลัก และธุรกิจอิมมิเกรชั่นเอเจนท์ เป็นแค่ธุรกิจเสริม ทำเป็นแค่ freelance เป็น pocket money อะไรก็ว่าไป
เนื่องด้วยว่า การเป็นอิมมิเกรชั่นเอเจนท์เนี๊ยะ เราจะต้องมีการต่อใบอนุญาติการประกอบวิชาชีพทุกๆปี และการที่เราจะต่อใบประกอบวิชาชีพเนี๊ยะ นอกจากเราจะต้องเรียนจบมาทางด้านกฏหมายอิมมิเกรชั่นแล้ว เราก็ต้องมีการเข้าอบรม seminar หรือ workshop เพื่อให้ได้แต้มครบ 10 แต้มทุกๆปี
ปีแรกๆเราก็ได้ไปเข้า seminar ที่ Sydney และก็ได้มีโอกาสเจอพี่คนไทยคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของอิมมิเกรชั่นเอเจนท์เจ้าใหญ่ที่ Sydney เพราะเขาเปิดมานานแล้ว และเราเองก็เคยใช้บริการเขาเหมือนกัน เพราะเราก็เอาเพื่อนเราทำวีซ่านักเรียนมากับเอเจนท์ของพี่คนนี้
ซึ่งเป็นปกติของคนไทยอยู่แล้วที่เวลาเราเจอคนที่เรารู้จัก เราก็ยกมือไหว้ เช่นเดียวกัน เราก็เข้าไปทัก เข้าไปยกมือไหว้พี่คนนี้ แต่สิ่งคนนี้พูดออกมาก็คือว่า
"เป็นอิมมิเกรเจนท์ จะ work เหรอ จะมี case ทำพอจ่ายค่า license หรือเปล่า?"
ค่า license ก็คือค่าต่อทะเบียนใบประกอบวิชาชีพนะครับ ซึ่งปีหนึ่งก็ประมาณ $5,000 เพราะบวกนั่น นี่ โน่น ค่าประกัน ค่า seminar ค่า workshop
เราเองก็นึกในใจว่า เออ ไม่เข้าไปทักสะก็สิ้นเรื่อง ป่วยการที่เราไปยกมือไหว้แก วันนั้นแกก็เป็นป้ามาเลยนะ แต่งตัวธรรมดา ไม่ได้แต่งหน้า อยากจะบอกว่าหน้าตาป้าโทรมมากเลย...
จากวันนั้น มาจนถึงวันนี้ เราก็ไม่เคยได้เจอพี่ (ป้า) คนนี้อีกเลย ก็เลยไม่ได้มีโอกาสกลับไปบอกแกว่า เรามี case ทำพอจ่ายค่า license ทุกๆปี ยังไม่เจ๊งจ๊ะ
อยากจะบอกและเป็นกำลังให้ทุกคนที่เลือกจะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำว่า ให้เปลี่ยนคำดูถูกเหยียดหยามพวกนั้นมาเป็นกำลังใจและแรงบันดาลใจในการทำงาน ทำงานของตัวเองให้เต็มที่ ดูแลลูกค้าของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วลูกค้าเขาจะบอกปากต่อปากเอง แล้วสักวันหนึ่ง วันนั้นก็คงมาถึง วันที่หลายๆคนเขาต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นของเขาเอง
No comments:
Post a Comment