เห็นแล้วรู้สึกอายจัง อายกับความโง่เขลา และความงมงายของคน คือแบบว่าคนเรามันหมดที่พึ่งทางใจกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี๊ยะ ถ้าต้องการที่พึ่งทางใจทำไมไม่ไปวัด ไปโบสถ์กันหละ จะนับถือศาสนาอะไรก็ว่าไป แต่ต้องไม่ใช่ไอ้ลูกเทพอะไรนี่ โง่กันจริง
คนที่หมดเงินไปกับการบูชาลูกเทพ นี่ก็เป็นผลาญเงินอีกแบบหนึ่ง อยากโง่เองก็ช่วยไม่ได้นะ ตามสบายก็แล้วกัน
คนที่หากินกับลูกเทพก็ถือว่าเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เออ เอาเถอะ น้ำกำลังขึ้นให้รับตักก็แล้วกัน เพราะของอย่างนี้คงไม่จีรังยั่งยัน เดี๋ยวก็คงซบเซาลงไปเอง
ส่วนพระคุณเจ้าทั้งหลายที่มีการปลุกเศกลูกเทพแล้วบอกว่า มันไม่ต่างอะไรกับการเจิมรถ เจิมบ้าน เออ นั่นนะสินะ จริงๆแล้วศาสนาพุทธก็ไม่ได้สนับสนุนอะไรมากมายกับการเจิม ไม่เจิมอะไรพวกนี้ไม่ใช่เหรอ ศาสนาพุทธที่แท้จริงต้องมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติสิ ทำไปสิทำยังไงถึงจะหลุดพ้น ไม่ใช่มานั่งเสกนั่น นี่ โน่น ให้คนเขางมงายกัน
เฮ้อ.... เบื่อนะที่จะต้องกลายมาเป็นฆารวาสสอนพระเนี๊ยะ
ส่วนคนที่ชอบเอาพวกลูกเทพมาลง social media มาอวดอ้าง ก็เอาเถอะ เพราะนั่นมันคือการประจานว่าตัวเองโง่ และงมงาย ยิ่งลงเยอะ อวดเยอะ ก็แสดงว่าโง่เยอะ
ส่วนพวกดารา คนดังอะไรทั้งหลายแหล่ก็เหมือนกัน เอาเถอะถือว่าเป็นการประจานตัวเอง ว่าช่างโง่และงมงายกันสะจริงๆ เสียดีที่เป็นคนดัง ควรจะทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ใช่เอาลูกเทพมาออกสือ น่าระอายจริงๆ
หลายคนบอกว่าชีวิตดีขึ้นหลังจากได้มีการบูชาและขอพรจากลูกเทพ แหม... โง่อีกหละ ถ้าอยากให้ชีวิตดีมีสุข ก็ประพฤติปฏิบัติธรรมไปสิ ถือศีลกินเจอะไรก็ว่าไป ชีวิตมันก็คงจะดีขึ้น จะมามัวกราบไว้ขอพรอะไรเนี๊ยะจากตุ๊กตา เออ โง่จริง
ไม่รู้นะ หลายๆคนบอกว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
เอ่อ.... เราไม่เชื่อ และก็ขอลบหลู่ ก็ขอบอกว่า พวกเธอช่างโง่เขลาจริงๆ สมองคงมีหยักน้อย ไม่เป็นไรจ๊ะ เข้าใจว่าพระท่านให้มาไม่เท่ากัน...
จะคอยดูว่ามันจะฮิตกันไปได้สักเท่าไหร่กันเชียว ชักจะเบื่อเต็มทนละ
No comments:
Post a Comment