คนเรานะถ้าอยากทำอะไรในชีวิตแล้วเจริญ เราจะต้องไม่ลืมบุญคุณคนที่เคยช่วยเหลืออะไรเราเอาไว้ ที่เขียนอะไรวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปทวงบุญคุณอะไรกับใครนะ ไม่ใช่ครับ คือแบบว่าอารมณ์มันพาไป
การที่เราไม่เคยที่จะลืมนึกถึงใครสักคนที่ในวันหนึ่ง เค๊าเคยช่วยอะไรเรามาในยามที่เราตกทุกข์ได้อยาก มันก็เป็นการแสดงถึงความมีน้ำใจของเรา ที่ยังนึกถึงวันที่เค๊าเคยช่วยเหลือเรา ก็แค่นั้นเอง
หากเราแสดงออกถึงการน้ำใจ หากเราต้องการความช่วยเหลืออะไรจากใครในอนาคตมันก็จะเป็นการง่าย ซึ่งปกติแล้วมันก็เป็น commonsense ของคนทั่วๆไปที่เราชอบที่จะช่วยเหลือคนที่เราช่วยไปแล้วเค๊าเห็นบุญคุณกับเรา บางทีเราไม่ต้องการอะไรตอบแทน แค่คำว่า "ขอบคุณ" ก็พอแล้ว
ในทางตรงกันข้าม หากเราได้ช่วยเหลืออะไรใครไปแล้ว เค๊าไม่ได้เห็นบุญเห็นคุณอะไรกันเลย เราก็คงคิดว่าช่วยเอาไว้ครั้งเดียวและก็คงจะเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน เพราะบางทีมันก็ป่วยการที่จะช่วยไป เพราะบางทีการที่เราไปช่วยเหลืออะไรใครไป อยากแสดงออกถึงความมีน้ำใจ แต่บางทีมันก็เป็นการหาเหาใส่หัวเราได้เหมือนกัน ป่วยการที่จะช่วย
ตามหัวข้อที่ตั้งไว้วันนี้คือ มีคุณต้องทดแทน มีแค้นไม่ชำระ
ครับ ตามนั้น แค้นอะไรใครเค๊าไว้ ก็แนะนำให้อโหสิและปล่อยวาง ถ้าไม่ปล่อยวาง เราถืออยู่อย่างนั้น ไม่ยอมวาง มันก็หนักนะครับ
หลายๆคนบอกว่า "มีคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ" เราไม่เห็นด้วยนะครับ เป็นคำสุภาษิตเก่าๆที่มันหมดสมัยไปแล้ว ถ้ามีแค้น แล้วต้องชำระมันก็คงเป็นกรงกรรมกรงเกวียนกันไปเรื่อยๆ ดังนั้นขอแนะนำ สุภาษิตไทยจากแดนไกลนะครับว่า "มีคุณต้องทดแทน มีแค้นไม่ต้องชำระ"
ลองดีนะครับ ความคิดเปลี่ยน การดำเนินชีวิตเราก็จะเปลี่ยนไปด้วย
No comments:
Post a Comment