ในการเดินทาง ถ้าเราเดินทางเรียบๆง่ายๆ เราจะได้เรียนรู้แค่เพียงแค่ระยะทาง…แต่ถ้าเราปีนป่ายเขา เราจะได้ทั้งระยะทาง และความสูง
ชอบประโยคนี้ครับ เพราะมันสะท้อนได้ถึงความทะเยอทะยานของมนุษย์ที่แตกต่างกันออกไป…บางคนเดินทางเพียงเพื่อให้ตนได้ก้าวไปข้างหน้า ในตำแหน่งที่ไกลกว่าเดิม...ในขณะที่บางคนเดินทางเพื่อให้ตนเองไปในตำแหน่งที่ไกลกว่าเดิมด้วย และสูงขึ้นด้วย…
เดินทางบนถนนเรียบๆ… แน่นอนครับ ขึ้นชื่อว่าถนนเรียบๆง่ายๆ…มันย่อมสบายกว่าการปีนป่ายเขาอย่างแน่นอน เพียงแค่ขาของเราทั้งสองข้างก้าวซ้าย สลับขวาไปเรื่อยๆ ตามท้องถนน…ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายอะไร หรือเผชิญอุปสรรคที่ท้าทายอะไรมากมาย เพียงเท่านี้เราก็จะได้ระยะทางที่ไกลขึ้นแล้ว…ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคนทำงาน คนที่ชอบเดินทางเรียบๆง่ายๆก็มักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความทะเยอทะยานหรือกระตือรือร้นอะไรสักเท่าไหร่ พวกเค๊าเหล่านั้น…มักพอใจในงานที่ทำ เงินเดือนที่ได้รับ และสถานะที่เป็นอยู่ การเดินทางของคนกลุ่มนี้ ก็จะเป็นอะไรที่ เรื่อยๆ เอื่อยๆ เปื่อยๆ เฉื่อยๆ แฉะๆ สะสมระยะทางจากการเดินทางของตนไป ซึ่งหากเรียกตามภาษาแรงงานก็คงจะเป็นอายุประสบการณ์การทำงานละมั้ง แต่ถึงแม้คนเหล่านั้นจะมีประสบการณ์การทำงานมากก็จริง แต่ด้วยความที่เขาไม่คิดจะไต่เต้า ดิ้นรนขวานขวาย จึงทำให้ตำแหน่งหรือสถานะของเค๊ายังคงที่อยู่อย่างเดิม เช่น เป็นพนักงานบริษัทอยู่ตั้งแต่เริ่มทำงาน ทำงานไป 10 ปีก็ยังคงเป็นพนักงานบริษัทอยู่อย่างนั้น หรือ เป็นลูกจ้างในห้างสรรพสินค้า จนเวลาผ่านไป 5 ปี ก็ยังคงเป็นลูกจ้างอยู่อย่างนั้น ไม่คิดที่จะเปิดกิจการเป็นของตัวเองเสียที…
ปีนเขา…
นักเดินทางประเภทนี้จะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างไปจากคนที่ชอบเดินทางเรียบๆง่ายๆอย่างสิ้นเชิง พวกเค๊าชอบความท้าทาย และพร้อมที่จะเผชิญกับมันและหาวิธีการเพื่อผ่านพ้นมันไปด้วยตนเองเสมอ และสิ่งที่รอคอยบรรดานักปีนเขาเหล่านี้อยู่ ไม่ใช่ความจำเจซ้ำซากสองข้างทางถนนครับ แต่เมื่อเค๊าพยายามจนสุดความสามารถและได้ขึ้นไปอยู่บนยอดภูเขาแล้ว พวกเค๊าจะมองเห็นวิวที่สวยงาม เห็นในมุมที่หลายๆคนไม่เคยเห็น และได้ยืนอยู่ในที่ที่หลายๆคน ไม่เคยได้ยืน …ซึ่งหากเทียบกับชีวิตการทำงาน คนที่ชอบปีนป่ายเขา ชอบความท้าทาย ชอบที่จะพัฒนาตัวเอง
คนประเภทนี้จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองไปยื่นอยู่ในจุดที่สูงกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนที่สุดครับ…การที่จะไปให้ถึงจุดที่สูงกว่าเดิมได้นั้น คือต้องทำในสิ่งที่ยากขึ้น ทำในสิ่งที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เช่น
- เค๊าเบื่อที่จะเป็นลูกจ้างบริษัทเพราะเงินเดือนน้อย จึงมีความคิดที่จะลาออกมาเปิดกิจการเพื่อเป็นเจ้าของกิจการเอง การลาออกและลงทุนเปิดกิจการนี่แหละครับถือเป็นการเดินออกมาจากทางเรียบๆง่ายๆเพื่อตัดสินใจปีนป่ายขึ้นไปบนภูเขา ตามหาฝัน ซึ่งเป็นการทำในสิ่งที่เสี่ยง และยากกว่าเดิม…
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่า การทำอะไรที่ท้าทาย เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะทำให้พวกเค๊าเหล่านั้นก้าวหน้า และอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น…
การเดินทางทั้งสองรูปแบบไม่มีรูปแบบใหนถูก หรือแบบใหนผิดครับ…
หากการเป็นพนักงานบริษัท หรือตำแหน่งที่เรายืนอยู่ในปัจจุบันคือความสำเร็จในชีวิต และไม่ต้องการไขว่คว้าสิ่งใดเพิ่มเติมให้เหน็ดเหนื่อยแล้ว…การเดินทางเรียบๆง่ายๆจะเป็นการเดินทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่มีความคิดแบบนี้
แต่หากเรายังต้องการที่จะได้รับสิ่งแปลกๆใหม่ๆเพิ่มขึ้นในชีวิต อยากได้หรืออยากทำอะไรที่มันท้าทายไปกว่านี้ ไม่ใช่หยุดความคิดเพียงแค่พนักงานบริษัทธรรมดา แต่อยากลองเป็นผู้จัดการบริษัท หรือเปิดบริษัทเอง สิ่งเดียวที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้คือการเดินทางไปให้ไกล และไปให้สูง
ลองดูนะครับ…อย่ากลัวที่จะทำในยิ่งที่ยาก ไม่มีผู้ประสบความสำเร็จคนใหน ได้ความสำเร็จมาอย่างง่ายดายอย่างแน่นอน ก่อนจะมาถึงจุดที่เค๊ายืนอยู่ เราคิดว่าพวกเค๊าเหล่านั้นคงได้ผ่านเรื่องราวที่ลำบากมาแล้วนับไม่ถ้วน
ความสำเร็จของพวกเค๊าเหล่านั้นล้วนแต่เกิดขึ้นจากการ “ปืนป่ายเขา” ด้วยกันแทบทั้งนั้น…
No comments:
Post a Comment