ถ้าเด็กเกิดมาไม่เคยเจอความยากลำบากเลย เด็กก็จะไม่เห็นคุณค่าของชีวิต ไม่มีภูมิคุ้มกัน ภูมิต้านทานของชีวิต พออยู่มาวันหนึ่งประสบปัญหาอะไรนิดหน่อยในชีวิต ก็ทำตัวเปราะบาง รับไม่ได้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โทษคนอื่น โทษคนรอบข้าง ไม่จะเคยโทษตัวเอง
สรุปแล้วการที่เราประเคนอะไรทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีให้กับลูกๆนั้น เป็นการดีหรือเปล่า ลองคิดให้ดีๆ มันเป็นการรังแกลูกหรือเปล่า เราจะอยู่ดูแลลูกไปได้ตลอดชีวิตหรือเปล่า ถ้าอยู่มาวันหนึ่ง เราไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้น เคยคิดไว้บ้างมั๊ย
อย่ามัวแต่คิดว่า ทิ้งมรดกทิ้งเงินทิ้งทองไว้ให้ลูกก็เพียงพอแล้ว เออ แล้วถ้าลูกมันได้มรดกมาง่ายๆ คิดหรือเปล่าว่าเค๊าจะสามารถดูแลมรดกนั้นต่อไปได้ หรือสุดท้ายแล้วลูกก็จะล้างพลาญมรดกไปจนหมด สุดท้ายก็เอาตัวเองไม่รอดอยู่ดี สุดท้ายก็คงต้องเดือดร้อนคนรอบข้างอยู่ดี
เรามาลองฝึกฝนให้ลูกได้พบได้เจอกับความผิดหวังกันบ้างจะดีมั๊ย
ฝึกฝนให้เค๊ารู้จักเอาตัวรอดได้ในสังคม เค๊าจะได้มีภูมิต้านทานชีวิตที่ดี นั่นแหละควรเป็นหน้าที่ที่แท้จริงของพ่อแม่ พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ให้ตลอดไป ลูกต่างหากหละที่ต้องฝึกที่จะขวานขวายหาในสิ่งที่เค๊าต้องการด้วยตัวของเค๊าเอง
พ่อแม่รังแกฉัน มีอยู่จริง ถ้าหากเราเป็นหนึ่งในนั้น ลองคิดดูใหม่มั๊ย ลองปรับปรุงแก้ไขสถานการณ์ก่อนดีมั๊ย ก่อนที่มันจะสายเกินไป
พ่อแม่รังแกฉัน แก้ไขได้ เปลี่ยนแปลงได้ หากเรารู้เท่าทัน...
No comments:
Post a Comment