Sunday, June 24, 2018

ตัดบัว อย่าให้เหลือเยื่อใย


ตัดบัว อย่าให้เหลือเยื่อใย

มันเป็นธรรมดาของชีวิตมนุษย์ ที่เราเกิดมา “พบเพื่อพราก”
งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา

วันนี้เรารักกัน
พรุ่งนี้จะเป็นอะไรยังไง เราไม่อาจสามารถเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้

ไม่ว่าจะอะไรยังไงก็ตามแต่
คนเราเกิดมา “ฆ่าได้ หยามไม่ได้”
ศักดิ์ศรี เกียรติยศและความเป็นคน “กินไม่ได้แต่เท่ห์”
เราก็ต้องรักษาเอาไว้ด้วย

เราอย่าให้ใครมาดูถูก เหยียดหยาม หรือเอารัดเอาเปรียบเราได้

หากวันใด เราจะต้องมีการเลิกราต่อกัน
ไม่ว่าจะในฐานะของคนรักเก่า เพื่อนเก่าที่ไม่ต้องการจะคบแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรยังไงก็ตามแต่

ลูกค้าเก่าที่ไม่ต้องการที่จะติดต่อหรือสุงสิงแล้วก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรยังไงก็ตามแต่

ตัดบัวไม่ต้องเหลือเยื่อใย
ชีวิตคนเราต้องก้าวเดินต่อไป
มองไปข้างหน้า
ไม่มองย้อนหลัง

หากใครคนใดคนหนึ่ง เขาไม่เห็นคุณค่าของเรา
ก็ไม่เป็นไร
เราไม่สามารถไปบังคับใครได้
ขอให้เราเห็นคุณค่าของตัวเราเองก็เป็นพอ

ตัดบัวไม่ต้องเหลือเยื่อใย
ดำเนินชีวิตของเราต่อไป
ทำงานของเราต่อไป
ไปใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนกัลยาณมิตร ที่เขาเห็นคุณค่าของเรา

ชีวิตของเราอย่าให้ใครมาเอาเปรียบเราได้

บาดแผลในใจที่ใครบางคนได้ฝากเอาไว้
เจ็บแล้วต้องจำ แล้วอย่าให้เกิดซ้ำอีก

หากเขาติดต่อกลับเข้ามา
ก็ไม่ต้องไปโต้ตอบ
ไม่ต้องไปสุงสิงด้วย
“ความเงียบ” มันคือการปฏิเสธอีกอย่างหนึ่ง

ชีวิตของเรา เราเลือกเองได้
ชีวิตของเรา เราจะต้องกุมบังเหียนชีวิตของเราด้วยตัวของเราเอง
เราอย่าให้ใครมาประเมินค่าชีวิตของเรา
เราประเมินค่าของเราได้

หากวันใด ที่เรามีความจำเป็นที่จะต้องตัดใครสักคนออกไปจากชีวิตของเรา

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบางคนที่เราไม่ต้องการที่จะคบแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นคนรักเก่าที่เราไม่ต้องการที่จะเจอแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้าที่เราไม่ต้องการที่จะติดต่อด้วยแล้ว

ถ้าหากเรามีความจำเป็นที่จะต้องตัดใครออกไปจากชีวิตของเรา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรยังไงก็ตามแต่ เราก็ต้องเด็ดขาด ตัดบัวไม่ต้องเหลือเยื่อใย ทำอะไรอย่าให้มันคาราคาซัง มันเสียเวลา ชีวิตมันไม่เดินหน้าหรือถอยหลัง ชีวิตมันย่ำอยู่กับที่

ชีวิตคนเราบางทีมันก็ต้องเด็ดขาด เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ชีวิตเราก็จะโดนคนอื่นเอาเปรียบอยู่เรื่อยไป

หากเราปล่อยชีวิตของเราให้โดนเอาเปรียบอยู่เรื่อยไป
มันก็เป็นการเบียดเบียนตัวเอง
มันเป็นการเบียดเบียนคนที่เขารักเรา
มันเป็นการเบียดเบียนคนที่เขาเห็นคุณค่าของเรา

เราต้องรักตัวเราเอง ด้วยการไม่เบียดเบียนตัวเราเอง
ตัดใครบางคนออกไปจากวงจรชีวิตของเรา เพื่อที่ชีวิตของเราจะได้ไม่มีอะไรมาหน่วงเหนี่ยวเกี่ยวรั้งชีวิตของเราเอาไว้ได้

อย่าให้ใครบางคนมาถ่วงความเจริญชีวิตของเรา
เราต้องรู้จักที่จะตัด “มะเร็งแห่งชีวิต” ออกไปจากชีวิตของเราด้วย

ตัดบัวไม่ต้องเหลือเยื่อใย
แล้วชีวิตของเราก็จะเป็นอิสระ... carefree...

พูดง่าย แต่อาจจะทำได้ยาก
แต่ก็ต้องลองทำดู

ไม่งั้นทุกอย่างมันก็จะ เดิม ๆ เหมือนเช่นที่ผ่านมา

...จอห์น เผ่าเพ็ง... เพราะฉะนั้น มันถึงเป็นเช่นฉะนี้

No comments:

Post a Comment