Tuesday, April 13, 2010

ดีใจเพราะยังต้องทำงานตอนแก่เนี๊ยะนะ???

ห่างหายจากการเขียน blog ไปพักหนึ่งเพราะรู้สึกว่า plat from ที่ใช้ในการเขียน blog มีปัญหา หรือว่า คอมเราเริ่มช้าก็ไม่รู้นะ

เอาหละเข้าเรื่องของเราเลยก็แล้วกัน

เมื่อเช้าเดินผ่านร้านอาหารเวียดนามแห่งหนึ่ง ไปยืนอ่าน article ที่เค๊าลงหนังสือพิมพ์ เจ้าของร้านอายุ 56 บอกว่าดีใจมากเลยที่ได้เปิดร้านอาหารอีกครั้งหลังที่จากเปิดๆปิดๆมาหลายทีแล้ว พี่ J ก็เกิดคำถามขึ้นในใจว่า อายุ 56 เนี๊ยะนะ บอกว่าดีใจที่ได้เปิดร้านอาหารอีกครั้ง 56 เนี๊ยะ มันน่าจะเตรียมตัว retire และทำอะไรต่อมิอะไรให้กับชีวิตมากกว่า ไม่ใช่มานั่งทำงานแบบนี้

ถ้าเป็นพี่ J, 50 ก็ขอ enjoy life แล้วหละ มานั่งทำงานงกๆอยู่อย่างนั้น คงไม่ใช่ quality of life ที่เราต้องการ สุดท้ายแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนการดำเนินชีวิตของเรานี่เอง ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต มีบางคนที่ต้องทำงานตลอดชีวิต ไม่มีเวลาได้ใช้จ่ายเงินที่หามาได้เลย หรือบางคนกะว่า เออ เดี๋ยวทำงานจนอายุ 60 แล้วค่อย retire แต่เคยคิดบ้างมั๊ยว่า ถ้าตายตอนอายุ 59 หละ แสดงว่าชีวิตทั้งชีวิต ก็ทำงานเหนื่อยเปล่าๆ ไม่ได้พักผ่อน ไม่ได่ enjoy life เลย

สำหรับน้องๆทุกคน ได้คาดหวัง หรือวางแผนอะไรกับชีวิตไว้หรือยัง อย่าคิดว่าอนาคตยังอีกไกล plan เมื่อไหร่ก็ได้ บางคนก็คิดไปแบบนี้เรื่อยๆ มารู้ตัวอีกที ก็สายเสียแล้ว แก่สะหละ หรือไม่ก็ตายก่อนที่ไจะด้ พักผ่อน

จะ retire ยังไง จะใช้ชีวิตยังไง plan กันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

อย่างพี่ J เอง ทุกวันนี้ก็ดำเนินชีวิต ไปตามที่ plan เอาไว้ toward my retirement แต่จะทำได้มากน้อยขนาดใหน ค่อยว่ากันอีกที อย่างน้อยเราก็มี plan แหละ ไม่ได้ปล่อยชีวิตเคว้งคว้างไปวันๆ

retirement ในมุมมองของพี่ J ไม่ได้หมายความว่า เลิกทำงานไปเลยสะทีเดียว แต่หมายความว่า ทำในสิ่งที่เราชอบ โดยที่ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องปากท้อง ว่าจะมีกินหรือเปล่า เพราะชีวิตตอนนั้นน่าจะ sustain ตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ถ้าทำไม่ได้ ก็ถือว่าชีวิตล้มเหลวแล้วหละ

ชีวิตบั้นปลาย ไม่ต้องมั่งมีมาก เพราะตายไปก็เอาไปไม่ได้ จะหาไว้ให้ลูกให้หลานเหรอ ก็ให้เค๊าหาเองสิ จะไปลำบากตัวเองทำไมเนี๊ยะ หาให้ตัวเอง ทำให้ตัวเองมีความสุขก็พอ มีเหลือ ก็แบ่งปัน แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องทำเผื่อคนอื่นมากมาย ทำเผื่อคนอื่นมาก ก็เป็นการเบียดเบียนตัวเองโดยใช่เหตุ เบียดเบียนตัวเองก็เป็นบาปอีกแบบหนึ่ง (คือว่า คิดเอง เออ เองหนะ) คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นการเห็นแก่ตัว ถ้าไม่เห็นแก่ตัว แล้วจะไปเห็นอะไร เผื่อใครหละ อยากรู้บ้างว่า มีใครในโลกนี้ที่ไม่เห็นแก่ตัวเลย อยากรู้ อยากรู้

ที่เขียนไป ไม่ได้เขียนหรือพูดพล่อยๆ หรือคิดเรื่อยเปลื่อยนะ เรา reference ได้ ทุกอย่างมีหลักการ และเป็น academic แน่นอน และก็คิดอ่าน แบบผู้มีปัญญาแล้ว แล้วคุณ ท่านผู้อ่านหละ มีปัญญา แล้วหรือยัง

ชีวิตบั้นปลาย ขอไปปลูกผัก รีดนมไก่ เก็บไข่วัว ก็แล้วกัน ...... จะเอิ๊ก จะเอิ๊ก