Friday, June 23, 2017

5am club ตื่นตี 5 หน้าหนาว

5am club

หลายวันที่ผ่านมา
มีความรู้สึกแบบว่า

"เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน เงียบๆคนเดียวและไม่อยากตื่นขึ้นพบใคร"

มันก็มีบ้างเป็นบางวัน
ที่เรารู้สึกว่าการทำงานมัน take over ชีวิตเรา

เหมือนเราทำอะไรไปวันๆ เพื่อคนอื่น
ไม่ได้ทำอะไรให้กับตัวเองเลย
ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง

มันทำให้ชีวิตเราบางที ดูไม่มีความหมาย
มันเหมือนกับว่า คนอื่น และหน้าที่การงาน มันมาเป็น factor ของการดำเนินชีวิต

มันมาเป็นบังเหียนของการดำเนินชีวิต

เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ในชีวิต
มันดูคลาดเคลื่อนไปบ้างเล็กน้อย

เพราะต้องการเป็นคนดี
เพราะอยากทำเพื่อคนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง
แต่ลืมทำอะไร เพื่อตัวเอง

June เป็นอะไรที่ busy และ crunch time มากๆ กับธุรกิจและหน้าที่ ที่เราทำอยู่

เหมือนว่า June มัน take over ชีวิตเราไปช่วงหนึ่ง

แต่เช้านี้ เราตื่นขึ้นมาด้วยความตั้งใจ
ตั้งใจที่ take control of my life once more
ตื่นขึ้นมา และจุดหมายในชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง

ตื่นตี 5 หน้าหนาว
ไม่บ้าก็แสดงว่า ตื่นขึ้นมาหาฝัน หาจุดหมายในชีวิตจริงๆ
ก็เพราะชีวิตเราเป็นสิ่งที่มีค่า
และน่าถนุถนอม

วันนี้เรารู้ว่า เราตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไรให้กับตัวเอง

แล้วคุณหละ

วันนี้ คิดที่จะทำอะไรให้ตัวเองบ้างหรือยัง??

ก็เพราะชีวิตนี้มันมีค่า

เพราะฉะนั้น มันถึงเป็นเช่นฉะนี้

Monday, June 5, 2017

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเต้น Zumba


ปีนี้เราได้มีโอกาสไปออกกำลังกายด้วยการเต้น Zumba

เราคิดว่า เราได้อะไรมากกว่า การออกกำลังกายนะ

ทุกอย่างรอบตัวเรา มันแฝงข้อคิดและแง่คิดอะไรไว้หลายๆอย่างเสมอ

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเต้น Zumba คือ

คุณลุงคนแก่ 65-70
คุณยาย 65-75
คุณแม่ ก็เอาลูกมานั่งเล่น นั่งดูแม่เต้น Zumba

มันทำให้เราเห็นว่า เออ เห็นมั๊ยเนี๊ยะ
คนพวกเนี๊ยะ เขาไม่ได้หาข้ออ้าง หาเหตุผลที่จะไม่มาออกกำลังกาย

ชีวิตคนเราข้ออ้าง เยอะแยะ มากมาย
ติดไอ้นี่ ติดไอ้โน่น มาไม่ได้ ไม่ว่าง

ก็เพราะทุกอย่างคือข้ออ้าง

คนเรามักจะหาข้ออ้างให้ตัวเองเสมอ

แต่คุณลุง คุณป้า คุณยาย เหล่านี้ เขาไม่ได้ให้อายุเขามาเป็นอุปสรรค

ส่วนเราก็ไปเป็นแกะดำ เพราะคนอื่นๆ เขาดูแบบว่าสูงวัยกันทั้งนั้นเลย

แต่ไม่นะไม่ เราจะไม่ให้อะไรมาเป็นขีดจำกัดในสิ่งที่เราต้องการทำในชีวิตเป็นอันขาด

ถ้าลุงๆ ป้าๆ เขาทำกันได้ เราก็ต้องทำได้ ใช่มั๊ย…

Thursday, June 1, 2017

ก็เพราะเขาเป็นในแบบที่เขาเป็น


เคยสงสัยมั๊ย

ว่าใครบางคนทำไมเขาถึงเป็นในแบบที่เขาเป็น
คิด พูด และทำในแบบที่เขาทำ

ก็เพราะคนเรามีความแตกต่าง

ทัศนะคติทุกสิ่งอย่าง มันหล่อหลอมมาจากประสบการณ์และสิ่งแวดล้อม

เป็น อยู่ คือ

มันเป็นสัจธรรม

คนเราจะทำและลอกเลียนแบบในสิ่งที่เขาเห็น หรือประสบอะไรมา

เช่นเดียวกัน

คนเราจะคิด พูด และกระทำในสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง หรือข่าวมา

ทุกสิ่งอย่างมันหล่อหลอมเข้าด้วยกัน แล้วรวมกันเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนและผลักดันให้ใครบางคน เป็นในแบบที่เขาเป็น คิดในแบบที่เขาคิด พูดในแบบที่เขาพูด ทำในแบบที่เขาทำ

หากเราคิดได้เช่นนี้แล้ว
เราก็สามารถมองข้าม จุดบกพร่องของแต่ละคนไปได้
เราก็สามารถยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น
เราก็สามารถที่ยอมรับฟังความคิดเห็นของเขา  

ทั้งๆที่เราเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยก็ตาม

ก็เพราะทุกสิ่งอย่างมันมีที่มาและที่ไป

ด้วยเพราะเหตุ มันจึงมีผล

ก็เพราะฉะนั้น มันถึงเป็นเช่นฉะนี้...