Tuesday, August 28, 2018

กล้า


"กล้า"


คนเราถ้าอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต มันก็ต้อง “กล้า”

กล้าที่จะก้าวออกมาจากจุดเดิม ๆ
กล้าที่จะก้าวออกมาทำสิ่งแปลกใหม่
กล้าที่จะก้าวออกมาทำในสิ่งที่เรารัก ในสิ่งที่เราทำ
กล้าที่จะก้าวออกมาทำทั้ง ๆ ที่ยังไม่พร้อม
กล้าที่จะก้าวออกมาทำทั้ง ๆ ที่หลายสายตากำลังจ้องมอง
กล้าที่จะก้าวออกมาทำทั้ง ๆ ที่บางทีเสียงในหัวเรามันคัดค้าน


ความสำเร็จทุกสิ่งอย่างในชีวิต มันอยู่แค่เอื้อมมือ

หลาย ๆ คนไม่กล้า ไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไป
เพียงแค่เรากางมือออก เอื้อมมือไปให้สุดแขน ความสำเร็จนั้นต้องเป็นของเรา
ทุกสิ่งอย่างในชีวิตมันขึ้นอยู่กับวิธีคิด
มันขึ้นอยู่กับ mind set

ถ้าเราคิดว่าเราสามารถทำได้ เราก็ต้องทำได้
เพราะจิตใต้สำนึกไม่เคยโกหกเรา

เพราะจิตใต้สำนึกจะรู้ถึงศักยภาพที่แท้จริงของเรา ซึ่งบางทีเราอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเราสามารถทำได้

ดังนั้นจึงสำคัญมากที่เราทำอะไรตามใจของเรา ตามจิตใต้สำนึกของเรา เพราะจิตใต้สำนึกจะรู้ตัวเราดีกว่า ที่เรารู้ตัวเราเองอีก

ดังนั้นเราควรจะใช้จิตใต้สำนึกของเรา เป็นตัวนำทางของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ธุรกิจ หน้าที่ การทำงานและความรับผิดชอบ

จิตใต้สำนึกไม่เคยโกหก

หากสมองของเราคิดว่าเราสามารถทำสิ่งนั้นได้ ก็แสดงว่าเราคงมีความสามารถทำสิ่งนั้นได้จริง ๆ

คนเราจะประสบความสำเร็จได้หรือเปล่านั้น มันมีเพียงแค่เส้นผมเส้นบาง ๆ มากั้นอยู่แค่นั้นเอง เราจะสามารถมองผ่านหรือก้าวข้ามเส้นผมเส้นบาง ๆ เส้นนั้นไปได้หรือไม่

บางครั้งแล้วตัวเราเองนี่แหละที่เป็นศัตรูของความสำเร็จของตัวเราเอง
อย่าปล่อยให้เสียงเล็ก ๆ ในหัวของเรา ส่งเสียงออกมาเสียงดังเกินไป เสียงที่เต็มไปด้วยคำว่า


“จะดีหรอ”
“จะพร้อมแล้วหรอ”
“เรายังไม่เก่งพอนะ”
“ไม่เอาน่ะ อายเขาจัง”
“คนอื่นจะว่ายังไงนะ”
“คนเขาจะหมั่นไส้เราหรือเปล่า”


เสียงเล็ก ๆ ในหัวของเราเหล่านี้ อย่าปล่อยให้มันส่งเสียงออกมาเสียงดังจนปิดกั้นการเดินทางชีวิตของเรา

ถ้าจิตใต้สำนึกของเราบอกเราว่าเราสามารถทำได้
เราก็ควรจะลงมือทำเลยทันที


“ทำทันที” ทั้ง ๆ ที่ยังไม่พร้อม
ทำไป ฝึกฝนตัวเองไป เรียนรู้กับสิ่งที่เราทำไปด้วยในเวลาเดียวกัน


ทำ ผิดพลาด แก้ไข เรียนรู้
มันเป็นสิ่งที่มนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ควรจะทำ


คนที่เลิกเรียนรู้คือคนที่ตายแล้ว


คนที่ไม่กล้าออกมาทำอะไรเลย เขาก็จะเป็นผู้ตามตลอดไป


หากเราอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต
เรากล้าที่จะออกมา มาทำอะไรออกสื่อหรือเปล่า
เรากล้าที่จะมี Facebook Page ของตัวเองไหม
เรากล้าที่จะเขียนอะไรที่เกี่ยวกับความคิดของเราออกสื่อหรือเปล่า แน่นอนสิ่งที่เราออกสื่อไปจะต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน จะต้องมีคุณค่าต่อคนอื่นและสังคมในวงกว้าง

สื่อในที่นี้มีทุกรูปแบบ
ยิ่งในโลกสมัยของ Social Media สมัยนี้ การที่ออกมามีพื้นที่ มีสื่อเป็นของตัวเองเป็นอะไรที่ทำได้ง่ายมาก
ดังนั้นเราต้องกล้าที่จะออกมาเป็นผู้นำ
ดังนั้นเราต้องกล้าที่จะออกมาเป็นผู้ทำ


เลิกเถอะ
เลิกเป็นผู้ตาม


ก่อนที่เราจะจากโลกใบนี้ไป
เราอยากจะทิ้งอะไรไว้ให้คนจดจำหรือเปล่า
ให้เขาจดจำเราในด้านที่ดี ในสิ่งที่สวยงาม


หากเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดแล้ว
ที่เหลือนอกนั้น มันก็ไม่สำคัญแล้วล่ะ
เสียงนกเสียงการอบข้าง มันก็คงไม่มีความหมายแล้วล่ะ
อย่าปล่อยให้เสียงนกหรือเสียงการอบข้าง มามีอิทธิพลสำหรับเรา


เพราะเสียงเหล่านั้นมันก็เป็นแค่เพียง “ลมปาก”

Napoleon Hill (นโปเลียน ฮิลล์) กล่าวไว้ว่า “Opinion is the cheapest commodity”

ซึ่งหมายความว่า “ความคิดเห็น (หรือลมปาก) เป็นสินค้าที่ถูกที่สุด” ซึ่งก็หมายความว่า ใคร ๆ ก็สามารถออกความคิดเห็นได้ รวมไปทั้งพวกเสียงนกเสียงกา

ดังนั้นเราไม่ควรปล่อยให้พวกเสียงนกเสียงกาเหล่านี้มามีอิทธิพลต่อชีวิตของเราได้

หากพวกเสียงนกเสียงกาเหล่านั้นเก่งจริง มีความสามารถจริง พวกเขาก็คงจะใช้เวลาของพวกเขาที่มีอยู่ ไปทำอะไรอย่างอื่นที่มันมีคุณค่าต่อตัวเองและสังคมในวงกว้างแล้ว ถ้าพวกเขามีความสามารถจริง เขาคงไม่มีเวลามานั่งวิพากษ์วิจารณ์เราหรอก
พวกเสียงนกเสียงกาเหล่านั้น
มันคือเสียงของคนขี้แพ้


The winner never quit.
The quitter never win.


ผู้ชนะไม่เคยหยุด
คนที่อยู่จะไม่เคยชนะ


ดังนั้นเราต้องกล้าที่จะไม่หยุด
เราต้องไม่หยุดที่จะเดินตามหาฝันของเรา
เราต้องกล้าที่จะคิด
เราต้องกล้าที่จะทำ
และเราก็ต้องกล้าที่จะ “ทำทันที”


ที่เหลือ ผลลัพธ์จะออกมายังไง นั่นมันอีกเรื่องนึง
ผลลัพธ์ของการกระทำ
ผลลัพธ์ของการลงมือทำ
มันมีแค่ 2 อย่างคือ “สำเร็จ” หรือ “เรียนรู้”


บางคนอาจจะบอกว่า
“อ้าว… ผลลัพธ์ของการกระทำไม่ใช่สำเร็จกับไม่สำเร็จเหรอ”


ไม่จ๊ะไม่ ผลลัพธ์ของการกระทำของเราไม่ใช่แบบนั้น


ถ้าเราคิดว่าผลลัพธ์ของการกระทำคือสำเร็จกับไม่สำเร็จ
นั่นมันคือวิถีการคิดของคนขี้แพ้


พวกเราคือผู้ชนะ
พวกเราไม่ใช่คนขี้แพ้
พวกเราไม่คิดแบบนั้น
ถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต ความคิดและ mind set ของเราต้องแตกต่าง
วันนี้เรากล้ากันหรือยัง
กล้าที่จะออกมาทำอะไรสิ่งแปลกใหม่
กล้าที่จะมาทำอะไรให้กับโลกใบนี้

กล้าที่จะออกมาทำอะไรให้กับสังคมที่เราอยู่

Saturday, August 18, 2018

ความสำเร็จ ไม่ได้เกิดขึ้นได้แค่ชั่วข้ามคืน


กราบขอบคุณทุกคนเข้ามาอ่าน blog ของเราที่ http://jpp168immi.blogspot.com/

เห็นตัวเลข 600,000 total pageviews ก็มีความสุขแล้วครับ
เพราะนี่ blog ที่เขียนเอง ทำเองทุกอย่าง คนเดียว ทุกตัวอักษร

สะกดภาษาไทยถูกบ้าง ผิดบ้าง เราก็เรียนรู้กันไป ก็ไม่เคยคิดว่ามาอยู่เมืองนอกจะต้องมาเขียน blog อะไรเป็นภาษาไทยแบบนี้

ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นเสมอ
เราเริ่มทั้ง ๆ ที่เราไม่พร้อม
เราเริ่มทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ค่อยจะมีเวลา เพราะตอนนั้นเราก็ทำธุรกิจอะไรของเราอย่างอื่นอยู่แล้ว

เราเริ่มจากจุดเล็ก ๆ แบบ "ป่าล้อมเมือง"
เราเริ่มเพราะคิดว่าอยากจะเขียน blog 
เราเริ่มเพราะเราคิดว่าสิ่งพิมพ์ในเมืองใหญ่ เราคงเข้าไม่ถึง เราก็เลยเลือกที่จะเขียน blog แทน และตอนนั้นก็ยังไม่ได้ทำพวก facebook page พวกอะไรด้วยซ้ำ ตอนนั้นคิดว่าไม่จำเป็น ไม่รู้จะทำทำไม เราก็คิดว่า เราก็เขียน blog ไป มีงานเข้ามาก็ทำ ไม่มีงานเข้ามา เราก็มีธุรกิจของเราอยู่แล้ว พออยู่พอกิน ไม่ได้อะไรมากมาย

จากวันนั้น มาถึงวันนี้ 10 ปีผ่านไป
สิ่งเล็ก ๆ ที่ทำวันละนิดวันละหน่อย มันก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
สิ่งที่เราทำและเริ่มจากจุดเล็ก ๆ เริ่มขยายตัวและแซงหน้างานและธุรกิจตัวอื่นที่เราทำ

กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่หลาย ๆ คนคิด หลาย ๆ คนเห็น

มันคือการทำงานหนัก
มันคือการไม่นอนตื่นสาย
ไม่อายหากิน 
ไม่หมิ่นเงินน้อย
ไม่นอนคอยวาสนา

และอะไรอื่น ๆ เยอะแยะอีกมากมาย
กับการใช้ชีวิตที่แตกต่าง
กับวิสัยทัศน์ที่อาจจะไม่เหมือนใคร 
(เข้ามาดูหรือติดตามกันได้ที่ "https://www.facebook.com/because.jpp")

กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เราโดนมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคำพูดจาที่ดูถูกเหยียดหยามของป้า ๆ จากพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ในเมืองใหญ่ ๆ 

ก็ไม่เป็นไรจ๊ะ ยักษ์ใหญ่ เวลาล้มแล้วมันเสียงดังดีนะ!!!

10 ปี ผ่านไป คำพูดเหล่านั้น มันคือแรงผลักดัน
10 ปี ผ่านไป ตอนนี้ไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้นแล้ว
10 ปี ผ่านไป วุฒิภาวะ การศึกษา ธุรกิจ หน้าที่และความรับผิดชอบอะไรต่าง ๆ ของเราก็เปลี่ยนไป

focus ของเราก็เปลี่ยนไป
Where the focus goes, the energy flows. (Tony Robbins)

คนเรานะ ถ้าเรา focus energy ไปที่ไหน สิ่งนั้น ๆ ที่ทำมันก็จะออกมาดี มันเป็นเรื่องธรรมชาติ มันเป็นเรื่องของสัจธรรม ไม่เกี่ยวกับกฎแรงดึงดูด ดูดดึงอะไรนั่น

จะอะไร ยังไงก็ตามแต่ "โปรดอย่ามองเห็นฉัน เฉพาะตอนที่ฉันอยู่บนที่สูง" (น้องกัลยาณมิตร คนใกล้ตัว) การที่คนเราจะปีนป่ายมาถึงจุดนี้ได้ มันคือความเพียร มันคือความพยายาม

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็จะยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานของเรากันต่อไป
เลิกวิธีการทำงานของเราต่อไป
เราก็อาจจะมีคนรักบ้าง คนชังบ้าง ไม่เป็นไรจ๊ะ เราผ่านชีวิตมาเยอะมากพอแล้ว เราเจอและเห็นอะไรต่อมิอะไรมาเยอะแล้ว ตอนนี้ชีวิตมันมาถึงจุด "เฉย ๆ" "นิ่ง ๆ" "แล้วแต่เธอจะคิด" แล้ว

ถ้าหากชีวิตเราคิดได้เช่นนี้ ชีวิตเราก็จะมีความสุข
และมันก็สามารถทำได้จริง ๆ 
ไม่ได้มโน เพราะมันคือชีวิตจริง

คิดการใหญ่ ใจต้องนิ่ง (พี่กัลยาณมิตร คนใกล้ตัว)
ทำงานของเราต่อไป
ชีวิต ธุรกิจ หน้าที่ และการงาน
มีอะไรทำ ก็ทำกันต่อไป

วันหนึงมี 24 ชั่วโมง นั่นคือ 86,400 วินาที
ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน
เราเวลาเหล่านั้นไปทำงานกี่ชั่วโมง ทำอะไรเพื่อตัวเองกี่ชั่วโมง ทำอะไรเพื่อคนอื่นหรือสังคมกี่ชั่วโมง

หรือว่าวัน ๆ มันหมดกับการหายใจทิ้งไปวัน  ๆ โดยที่เกิดประโยชน์อะไรเลย

คนเรานะ ทำแบบไหน ก็จะได้แบบนั้น
คิดแบบไหน ก็จะได้แบบนั้น
มันเป็น cause และ effect
เพราะฉะนั้น มันถึงเป็นเช่นฉะนี้
เพราะทุกอย่าง มีเหตุและผลในตัวของมันเอง

หากใครคิดจะทำอะไรยังไงแล้ว เราก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
คนไทยอยู่ที่ไหนก็ประสบความสำเร็จได้
อย่าให้ใครมาตีกรอบชีวิตเรา
เราไม่ต้องคิดนอกกรอบ เพราะเราไม่มีกรอบ เราต้องเป็นตัวของตัวเอง

ใครที่คิดจะทำอะไรอยู่ ณ ตอนนี้ คิดอะไรอยู่ ทำเลย ทำทันที อย่าคิดนาน

ไม่ต้องฟังเสียงนกเสียงกาให้มาก
ทำ พิดพลาด แก้ไข เรียนรู้

การกระทำของเราทุกอย่างมีแค่ 2 ผลลัพธ์คือ
"สำเร็จ" หรือไม่ก็ "เรียนรู้"
เห็นมั้ย มันไม่มีคำว่า ล้มเหลว ในผลลัพธ์ของการกระทำ
ทุกอย่างอยู่ที่ mindset
ถ้าเราเปลี่ยน mindset  ได้ ทุกอย่างก็เปลี่ยน

กราบขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่าน blog ทั้งของ  "J Migration Team" และก็ของ "Life จิปาถะ"

กราบขอบคุณทุกคนที่ติดตาม facebook page ทั้งของ "J Migration Team" และ "John Paopeng เพราะฉะนั้น"

Sunday, August 12, 2018

ตัดบางสิ่งบางอย่างออกไปจากชีวิต


In life, we might need to cut down, cut out or get rid of something, in order to gain something else in life.

If you can get rid of some of the dick head from your life, it will give more space for someone nice to get in.

If you can get rid or ignore some of your bad clients, you then can spend more time with your good clients where the attention needs to be.

If you can get rid of someone who drags you down, you will feel light and happy.

Get away and get rid of those negative people around your life.
Take control of your life.

Life is changing life will never be the same.

ชีวิตคนเรา บางทีมันก็ต้องตัดอะไรบางสิ่งบางอย่างออกจากชีวิตของเรา เพื่อเราจะได้มีชีวิตใหม่ที่ดี

ถ้าหากเราสามารถจัดการเอาคนห่วยแตกออกไปจากชีวิตของเรา มันก็จะทำให้มีที่ว่างสำหรับคนที่เขาดีกว่า ให้เข้ามาในชีวิตของเรา

ถ้าเราสามารถจัดการเอาลูกค้าที่เราไม่ต้องการที่จะ dealing ด้วย ออกไปจากชีวิตของเรา เราก็จะมีเวลาดูแลลูกค้าบางคนที่เขาคู่ควรกับการดูแลของเรา

ถ้าหากเราสามารถกำจัดหรือจัดการกับใครบางคนที่คอยหน่วงและก็ถ่วงรั้งเราตลอดเลย ตัวเราก็จะเบาขึ้น ชีวิตเราก็จะมีความสุข

จัดการเอาคนแย่ ๆ ออกไปจากชีวิตของเรา
ชีวิตนี้เป็นของเรา เราต้องกุมบังเหียนชีวิตของเราเอง
อย่าให้ใครมา take control ชีวิตเราได้

รักตัวเองให้มาก

Sunday, August 5, 2018

passive income และการวางเป้าหมายในชีวิต


วันอาทิตย์ คุยเรื่อง passive income กันดีกว่า

เรากับภรรยาชอบการลงทุนในอหังสาริมทรัพย์
มันเป็นอะไรที่คุยกันรู้เรื่อง ไม่ต้องทะเลาะกัน
ไม่เหมือนการเล่นหุ้น หรือการลงทุนแบบอื่น ๆ ที่เราทำกันมา

และช่วงนี้ เราก็คิดว่า แรงเรายังมี เราก็ค่อย ๆ ทำไป ค่อยสะสม portfolio ของเราไป

เราก็คิดว่าดีกว่าจะเอาเงินเก็บไว้ในธนาคาร มันเกิดประโยชน์มาก
เราก็จะมีเงินในธนาคารบางส่วน เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น

ตอนนี้ แรงเรายังมี เราก็อยากจะสะสมทรัพย์สินทางด้านอสังหาริมทรัพย์ไปเรื่อย ๆ

ตอนนี้ก็พยายามกำหนดว่า 1 ปี จะต้องทำอะไรที่เมืองไทย
และ 1 ปีจะต้องทำอะไรที่ออสเตรเลีย

เราก็พยามยามที่จะ set target กำหนดเป้าหมาย
เพราะถ้าชีวิตแต่ละปี มันไม่มีเป้าหมาย มันก็จะเลื่อนลอยไปเรื่อย ๆ

ส่วนที่สิงคโปร์เนี๊ยะ แตะต้องแทบไม่ได้เลย
เราเป็นคนสิงคโปร์ด้วยจ๊ะ เป็นสิ่งคโปร์ PR
และก็มีเพื่อนสนิทเป็นคนขายบ้าน ขาย condo ด้วย
แต่ราคาสูงมาก แตะไม่ได้ และเราก็ไม่อยากเป็นหนี้
ทุกวันนี้ซื้อ apartment อยู่ที่สิงคโปร์ ก็ถือว่าหรูมากแล้ว

ทุกวันนี้ก็เลยมุ่งเน้นไปที่เมืองไทย และออสเตรเลีย (เมืองรอบนอก ถูก ๆ )

เราจะเป็นยุศการ "ป่าล้อมเมือง" ว่างั้นเถอะ

คือค่อย ๆ เก็บสะสมสินทรัพย์เล็ก ๆ จากเมืองรอบนอกก่อน เอาตามกำลังเราทำได้ แล้วค่อย ๆ ขยับขยายเข้ามาส่วนอื่น ตามกำลัง

ไปเมืองไทย เราก็ชะแว็บเข้าไปดูพวก website home.co.th

ส่วนที่ออสเตรเลีย ตอนนี้ก็สิงสถิตอยู่ที่ brickx.com กับ realestate.com.au ก็ดู ๆ ไปเรื่อย ๆ ทุกวันอาทิตย์ เราไม่ได้มีเวลาดูมากเหมือนคนอื่นเขา แต่ก็ดีกว่าคนเขาไ่ม่มีเวลา หรือไม่มีโอกาสในการดูเลย

เราก็ได้แต่หวังว่าปลาย ๆ ปี อาจจะทุ่มเทเวลามาทางด้านนี้ให้มากกว่านี้

แต่ตอนนี้ขอจัดการเรื่องงาน เรื่องอะไรให้มัลงตัว เราก็คงจะได้ลงมาทำอะไรตรงนี้ได้มากกว่านี้

สิ่งสำคัญก็คือ เราอยากให้ทุกคนตั้งเป้าหมายในชีวิตนะครับ
ว่าปีหนึง เราจะทำอะไรบ้าง
เราต้องการ achieve อะไรบ้าง

อย่าทำตัวเป็นไม้หลักปักเลน ปล่อยเวลาผ่านไปวัน ๆ

เตรียมการอะไร เพื่อการลงทุน เพื่ออนาคตด้วย


จอห์น เผ่าเพ็ง #เพราะฉะนั้น #มันถึงเป็นเช่นฉะนี้
Twitter: johnJPP168
IG: @johnpaopeng
YouTube channel: “John Paopeng”



ความโลภ


“ความโลภ”


ปัญหาหลาย ๆ อย่างในชีวิตของเราเกิดขึ้นเพราะความโลภ
เกิดขึ้นเพราะเราไม่รู้คำว่า “พอเพียง” และ ”เพียงพอ”


เราเห็นคนไทยหลายคนที่ประเทศออสเตรเลียที่มีปัญหาเรื่องการโกงเงิน
คนเราถ้าเผื่อเราไม่มีความโลภ มันก็คงไม่มีการโกงกันเกิดขึ้น


เช่นการเล่นแชร์  แชร์ล้ม เปียแชร์กันไม่ได้
ปัญหาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาจากความโลภทั้งนั้น


หรือปัญหาที่เขามีการฟ้องร้องกันที่ประเทศออสเตรเลียที่ไม่นาน ก็คือเรื่องของ future rate
เราไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเราเป็นคนไม่ดูข่าว ไม่ดูทีวี
เพิ่งจะไม่เห็นโพสเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน Facebook เมื่อ 2-3 วันก่อน


No news is a good news…. จ๊ะ


อีกเช่นเดียวกัน ถ้าเผื่อคนเราใช้ชีวิตอยู่บนบรรทัดฐานของความพอดี


ไม่โลภ
ไม่หวังรวยทางลัด


อะไรที่มัน short cut มันก็จะมีปัญหาเสมอ; 99.99%
พวก get rich quick scheme มันเป็นอะไรที่มาไวแล้วก็ไปไหว
อย่าไปเล่นกับไฟจะดีกว่า


คนเราหากเราต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น
ความสำเร็จมันต้องมาจากการทำงานหนักสิ
จะมานั่งนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ แล้วได้เงิน ได้กำไร ชิ้นโตมันเป็นไปได้ยาก


เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไมถ้าคนเราคิดจะลงทุน ทำไมไม่ลงทุนอะไรที่มันถูกต้อง
อย่างเช่นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
ลงทุนความรู้
ลงทุนกับตัวเอง


อะไรประมาณนี้


อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มันก็เสียไปง่าย ๆ


โพสต์นี้ blog นี้ เราไม่ต้องการตอกย้ำความผิดพลาดอะไรของใคร
แต่ก็แค่อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์แล้วก็ข้อคิดกับใครหลาย ๆ คน


สิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้ว ก็ให้มันผ่านไป
ชีวิตเรา เราเริ่มต้นใหม่ได้
เริ่มต้นใหม่ มีแนวคิดใหม่ ๆ
มีวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ


ทำมาหากินอย่างถูกต้อง
ไม่เล่นหวย
ไม่หวังรวยทางลัด
ไม่นอนตื่นสาย
ไม่อายหากิน
ไม่หมิ่นเงินน้อย
ไม่นอนคอยวาสนา


นี่คือคาถาแห่งความสำเร็จของชีวิต

อยากจะให้ทุกคนลองนำเอาไปใช้ดู