Thursday, March 22, 2018

The Subtle Art of Not Giving a Fuck



4 บทแรกก็รู้เลยว่า “ไม่ใช่”

เราก็ไม่แน่ใจนะว่าหนังสือเล่มนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ไหน
อาจจะเป็นพวกปรัชญาชีวิต
หรือกึ่ง ๆ จิตวิทยา

แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราก็อ่านหนังสือพวกนี้มาเยอะแล้ว

ที่ซื้อและดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้มา
ก็เพราะเห็นวางขายตามร้านหนังสือเยอะแยะมากมาย

เราก็เลยขอลองซะหน่อย
พอได้ลองแล้วก็รู้เลยว่า “ไม่ใช่”

เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้ “ไม่ใช่” สำหรับเรา

อาจเป็นเพราะด้วยคุณวุฒิ และก็วัยวุฒิที่แตกต่าง

ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะ “ไม่ใช่” สำหรับเรา
แต่ก็อาจจะ “ใช่” สำหรับคนอื่นก็เป็นได้

แต่เท่าที่ฟังจาก Audio book ที่ดาวน์โหลดมา
4 บทแรกไม่มีเนื้อหาอะไรเลย

เราคิดว่าไม่คุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป

แต่ก็ไม่เป็นไรนะ

เราต้องสามารถเรียนรู้กับทุกเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตได้
เราก็พยายามวิเคราะห์ว่า หนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้มีดีอะไรมากมาย
แต่ทำไมถึงมีวางขายอยู่ไปทั่ว

อาจจะเป็นชื่อหนังสือที่โดนใจ
อาจจะเป็นหน้าปกที่ดูแรงก็เป็นได้

จริง ๆ แล้วเราก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการตลาด
การ promote หนังสือ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้
เผื่อมันจะเป็นประโยชน์ต่อเราในภายภาคหน้า ก็อาจเป็นได้

ทุกสถานการณ์
ทุกเหตุการณ์
มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

เราพยายามที่จะมองหาข้อดี
และเรียนรู้จากทุกสถานการณ์ให้ได้

ก็เพราะชีวิตคือการเรียนรู้
ก็เพราะสถานการณ์ จะดี หรือจะร้าย มันขึ้นอยู่กับ mindset และวิธีการคิดของเรานี่แหละ


หลังจากที่ฟัง audiobook นี้ 4 บทแรก เราก็เลยเข้าไป search ใน Internet ดูว่า Mark Manson คือใคร

สรุปเขาก็เริ่มมาจากการเป็น blogger เขียน blog เรื่องความสัมพันธ์อะไรประมาณนี้ก่อน ก็เขียนเรื่องนั้น เรื่องนี้ ไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็ออกมาเขียนหนังสือ หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่ 2 ของเรา

สรุปแล้ว แค่ profile คนเขียนเราก็คิดว่าไม่ ok แล้วหละสำหรับเรา เราต้องการอะไรที่ subtle มากกว่านี้

หลังจากนั้นก็อุตส่าห์ฟังทุกครั้งที่ขับรถ ฟังไปจนหมดเล่มเพราะไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้ว

หนังสือมีทั้งหมด 9 บท
เราก็ฟังไปจนจบ

ไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไรน่าสนใจ
แต่มันก็เป็นประสบการณ์ สอนให้เรารู้ว่า ต่อไปจะซื้อหนังสือเล่มไหนมาอ่าน ให้ลองดู profile ของคนเขียนด้วย ว่าเรา ok กับ profile เขาหรือเปล่า

เราอาจจะเป็นคนเรื่องมากนิดหนึงในการอ่านหนังสือ
เพราะเราอ่านหนังสือมาเยอะแล้ว (ไม่ได้แปลว่ารู้เยอะนะครับ) เราต้องการ value for money ในการซื้อหนังสือด้วย

หนังสือเล่มนี้ เราไม่แนะนำเลย
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า "ไม่ใช่"

เพราะฉะนั้น มันถึงเป็นเช่นฉะนี้


#จอห์นเผ่าเพ็ง #เพราะฉะนั้น #มันจึงเป็นเช่นฉะนี้
Twitter: johnJPP168
YouTube channel: “John Paopeng”

Saturday, March 17, 2018

เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา




ทุกสิ่งอย่างในชีวิต ที่มันเกิดขึ้นกับเรา
มันล้วนแล้วแต่ เป็นผล ที่มันเกิดมาจากการกระทำ หรือการตัดสินใจของเราเองทั้งสิ้น

ดังนั้น

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา
เราควรจะต้องมองดูเหตุและผลว่า
เหตุการณ์แบบนี้
สิ่งเหล่านี้ มันเกิดขึ้นเพราะอะไร

ถ้าเผื่อเราโทรไปหาใคร และอีกฝ่ายหนึ่งไม่อยากรับสาย
สาเหตุมันมาจากอะไร

ถ้าเผื่อเราอยากจะให้คน คนนี้ทำงานให้เรา
แต่ถ้าเผื่อเขาไม่อยากทำ ไม่อยากที่จะรับงาน (ยังไม่ได้จ่ายตังค์ ยังไม่มีพันธะต่อกัน)
สาเหตุมันมาจากอะไร

มันง่ายที่เราจะโทษคนอื่น

แต่จะมีสักกี่คน ที่ลองมองย้อนกลับเข้าไปดูว่า
ปัญหาจริง ๆ มันมาจากที่ไหน

ทุกคนมีพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
ไม่ว่าจะเป็นฐานะ สังคม และการศึกษา
ที่ NSW การศึกษาภาคบังคับสมัยก่อน เรียนกันแค่ year 10 เอง

ดังนั้น

พฤติกรรมและการแสดงออกหลาย ๆ อย่าง
มันบ่งบอกถึงตัวเขา ไม่เกี่ยวกับเรา
หากเขาจะโกรธ นั่นมันคือปัญหาของเขา ไม่ใช่ปัญหาของเรา
หากเขาจะด่า นั่นคือเขาด่าตัวเขาเอง เขาไม่ได้ด่าเรา

ชีวิตของแต่ละคนอาจจะไม่สมบูรณ์
เมื่อคืนสามีเขาอาจจะไม่ได้รัก
เมื่อคืนภรรยาเขาอาจจะไม่ได้รัก
พ่อแม่พี่น้องเขาอาจจะยังรักเขาไม่พอ

สิ่งที่เราควรพึงทำได้ ก็คือ “อโหสิกรรม”
และก็ไม่ต้องโต้ตอบ
มันก็เท่านั้นเอง

ใครคนใดถ้าอยู่ในนรก เราก็ควรปล่อยให้เขาอยู่ในนรกต่อไป
ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเขา

สิ่งที่เขาแสดงออกมา มันคงจะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเขาแล้ว
เขาคงทำได้ดีที่สุดแล้ว
เขาคงทำได้ดีที่สุด ได้เท่านี้จริง ๆ

ไฟมันกำลังสุมอกเขา ไม่ได้สุมอกเรา

มันคือเรื่องของเขา
ไม่ใช่เรื่องของเรา

เราไม่ควรให้ การกระทำของใครบางคน
มามีอิทธิพลต่อชีวิตของเราได้


สิ่งที่เขาแสดงออกมา มันคงจะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเขาแล้ว
เขาคงทำได้ดีที่สุดแล้ว
เขาคงทำได้ดีที่สุด ได้เท่านี้จริง ๆ

ก็เพราะชีวิตนี้เป็นของเรา
เราต้องกุมบังเหียนชีวิตของเราเอง
เราต้องไม่ให้ใครบางคน มามีอิทธิพลต่อชีวิตของเรา
มากุมบังเหียนชีวิตของเราได้

หากเราคิดได้เช่นนี้
ชีวิตเราก็จะเป็นความสุข

ก็เพราะชีวิตนี้เป็นของเรา
เราจึงต้องรักตัวเองให้มาก

#จอห์นเผ่าเพ็ง #เพราะฉะนั้น #มันจึงเป็นเช่นฉะนี้
Twitter: johnJPP168
YouTube channel: “John Paopeng”