Thursday, November 19, 2009

ชีวิตเด็กนักเรียน ที่น่าสงสาร

ช่วงนี้ พี่ J ได้มีโอกาสไปฝึกสอนที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แถวๆ Wollongong โรงเรียนที่ไปเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในระแวกและย่านชุมชนที่ ครอบครัวส่วนใหญ่ มีรายได้น้อย ติดยา ติดเหล้า หรือไม่มีงานทำ พี่เจก็ไปสอน Maths และ Comp (Computing) ที่โรงเรียนแห่งนี้ พี่เจต้องฝึกสอนทั้งหมด 30 วัน ตอนนี้ก็ฝึกสอนมาได้ 5 อาทิตย์แล้ว

ที่ได้ฝึกสอนที่นี่ ได้เรียนรู้ ได้เห็น อะไรหลายๆอย่าง โรงเรียนที่นี่เป็นโรงเรียนรัฐบาล บรรยากาศและสิ่งแวดล้อม ก็จะแตกต่างจากโรงเรียนเอกเชน หรือโรงเรียนที่อยู่ในตัวเมือง Wollongong เอง พี่เจเองก็เขียน blog เก็บเรื่องราวและรายละเอียดต่างๆ เป็นอีก blog หนึ่ง แต่คงให้ทุกคนอ่านไม่ได้ เพราะข้อมูลหลายๆอย่าง sensitive มาก เดี๋ยวโดน sue ได้ ซวยเลย

เด็กนักเรียนที่นี่มีชีวิตหลากหลาย คละเคล้ากันไป พี่เจก็ได้มีโอกาสสอนทั้ง top class และ lower class. Top class ก็จะเป็นเด็กเรียน ส่วน lower class ก็จะเป็นเด็กมีปัญหานิดหนึ่ง ทั้งเรื่องการเรียน และ behaviour problems

ทุกครั้งที่สอน top class, พี่เจจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้ดีมาก เพราะเด็กๆตั้งใจเรียนดีมาก ครู Asianได้มีโอกาสสอนเด็กฝรั่งหัวทอง ก็ได้อารมณ์แปลกๆไปอีกแบบหนึ่ง

แต่พอได้มีโอกาสสอนเด็ก lower class แล้ว รู้สึกสงสารมากเลย คิดอยู่ในใจว่า ทำใมนะ ชีวิตคนเรา มันช่างไม่แฟร์เลยจริงๆ เพราะเด็กใน lower class แบบว่าสอนอะไรไป เค๊าก็ไม่ค่อยจะเข้าใจกัน เค๊าจะทำ จะคิด อะไรแบบช้าๆ พี่เจมีความรู้สึกว่า ชั่วโมงสอน 50 นาที บางทีไม่ค่อยพอด้วยซ้ำสำหรับเด็ก lower class เพราะนักเรียนเหล่านี้ ต้องสอนและอธิบายไปอย่างช้าๆ

พี่เจก็อดคิดไม่ได้ว่า อยากจะนั่งยาว 2-3 ชั่วโมง นั่งอธิบาย ทำแบบฝึกหัด ให้พวกเค๊าได้เข้าใจไปเลย แต่มันก็ทำไม่ได้ เพราะพอ the bell ring ทุกคนก็ต้องไปเรียนวิชาอื่น พอเลิกเรียนทุกคนก็กลับบ้าน มันไม่มีการติวเข้ม หลังเลิกเรียน อะไรแบบนั้น เหมือนที่เมืองไทย เห็นแล้วก็อดที่จะหดหู่ไม่ได้ นักเรียนที่อยู่ top class หนะ พี่เจไม่ห่วงหรอก พวกนั้นเรียนเก่งอยู่แล้ว แต่พวก lower class นี่สิ กลับบ้านไป พวกเค๊าเหล่านั้นจะได้มีเวลาหรือโอกาสทบทวนบทเรียนหรือเปล่า พี่เจก็ไม่รู้ เพราะสะภาพที่บ้านอาจไม่เอื้ออำนวย พี่เจอยากช่วย แต่ก็คงช่วยได้เท่าที่เวลาเอื้ออำนวย บางทีก็เรียกเด็กให้เข้ามาพบช่วง recess แต่ก็ทำได้ไม่บ่อยนัก เพราะจะบอกเด็กทีไร เวลามันก็ผ่านไปเร็ว the bell ก็ ring แบบไม่ทันตั้งตัวตลอดเลย

น้องๆหลายคนที่มาเรียนเมืองนอกที่นี่ พี่เจก็อยากจะให้นึกถึงเด็กที่เค๊าด้อยโอกาสบ้าง พวกเรามีโอกาสดี ได้มาเรียนเมืองนอก เรียนในสถาบันที่มีคุณภาพ อย่างมหาลัย Wollongong พี่เจก็อยากจะให้ทุกคนตั้งใจเรียน เรียนให้จบ ให้ได้คะแนนดีๆ ให้พ่อแม่และครอบครัวที่เค๊าอุตห์ส่าส่งเสียเรามาเรียน ได้มีความภาคภูมิใจ เพราะค่าเรียน ค่าครองชีพ และทุกๆอย่างที่นี่ ไม่ได้ถูกเหมือนเมืองไทยเลย อยากให้น้องๆทุกคนใช้ชีวิตให้เป็น ใช้เวลาให้คุ้มค่า ใช้โอกาสที่ได้มาให้เป็นประโยชน์ ชีวิตพวกเราดีกว่าเด็กนักเรียนหลายๆคนที่พี่เจไปฝึกสอนมา ดีกว่าเยอะเลยทีเดียวแหละ

รู้มั๊ยว่าพวกเราหนะโชคดีขนาดใหน