Friday, October 9, 2015

ความพยายาม


ตอนนี้เรา “กำลังพยายาม” ที่จะทำอะไรอยู่หรือเปล่าเอ่ย…ถ้าใช่ เราก็หวังใจว่าบทความบทนี้จะสามารถสร้างพลังและกำลังใจให้แก่ใครบางคน…ไม่มาก ก็น้อย…นะครับ

เราเคยสังเกตุมั๊ยว่า คนที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เค๊าคาดหวัง พวกเค๊าเหล่านั้นใช้ความพยายามมากกว่า 90% เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เค๊าต้องการ ส่วนอีก 10% ที่เหลือ อาจจะเป็นโชคชะตา วาสนา โอกาส หรืออะไรก็ตามแต่ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยที่คนเราจะสามารถควบคุมมันได้…

Thomas Edison, เป็นนักประดิษฐ์ที่โด่งดังคนหนึ่งของโลก เค๊าเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็น หนึ่งใน 100 คนที่สำคัญที่สุดในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา เหตุที่ทุกคนให้การยกย่อง 
Thomas Edison ก็เพราะเค๊าได้ประดิษฐ์สิ่งของและมีสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ต่างๆเป็นจำนวนมากถึง 1,200 ชิ้น และมีหลายๆชิ้นเลยครับ ที่คนปัจจุบันยังคงใช้ประโยชน์จากมันอยู่ อย่างเช่น “หลอดไฟ”…

เมื่อพูดถึงหลอดไฟแล้ว สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ถือว่าเป็นชิ้นสำคัญของเค๊าเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากมันจะได้มาอย่างยากลำบากแล้ว มันยังเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์เราอย่างมหาศาล และสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ก็เช่นเดียวกันครับ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ของนักประดิษฐ์คนนี้ได้ดีที่สุดเลย 

เหตุที่เรากล่าวว่าผลงานชิ้นนี้สะท้อนถึงความพยายามของ
เค๊าได้เป็นอย่างดีนั้น นั่นก็เพราะว่างานประดิษฐ์หลอดไฟของเค๊านั้นไม่ง่ายเลยครับ เพราะเค๊าใช้เวลาในการทดลองมันอย่างยาวนาน นับครั้งแล้วเกินกว่า 10,000 ครั้ง จนมีนักข่าวถามเค๊าว่า เค๊าไม่รู้สึกย่อท้อบ้างเลยเหรอ หรือรู้สึกว่ามันล้มเหลวบ้างเลยเหรอ แต่เค๊ากลับตอบพวกนักข่าวไปด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสว่า การที่เค๊าทำไม่สำเร็จมากว่า 10,000 ครั้ง นั่นเค๊าไม่ถือว่ามันเป็นความล้มเหลวหรอกนะ แต่นั่นมันคือการค้นพบวิธีที่จะทำให้ไม่สำเร็จถึง 10,000 วิธีต่างหากหละ ซึ่งเมื่อเค๊าสามารถหลีกเลี่ยงวิธีการพวกนั้นได้ เค๊าก็จะทำการทดลองได้สำเร็จในที่สุด

และนี่คือผลของความพยายามของ Thomas Edison ครับ เค๊าเป็นนักวิทยาศาสตร์อีกผู้หนึ่งที่มีความเชื่อมั่นในความพยายามเป็นอย่างยิ่ง ครั้งหนึ่งเคยมีนักข่าวมารุมถามเค๊าว่าเค๊าคิดอย่างไร กับการที่ตัวเองถูกขนานนามจากคนทั่วไปว่าเป็นอัจฉริยะ…

เค๊าบอกว่า…อัจฉริยะในความหมายของเค๊า ประกอบด้วยไปด้วยพรสวรรค์เพียงแค่ 1% ส่วนอีก 99% มาจากความพยายาม Thomas Edison มีความพยายามครับ ไม่ใช่แค่ความพยายามธรรมดาด้วยนะเพราะถึงแม้ว่าเค๊าจะทำอะไรไม่สำเร็จในครั้งแรก เค๊าก็ยังลุกขึ้นมาทำในครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ และครั้งต่อๆไป โดยไม่ย่อท้อ จนสุดท้ายเค๊าก็ประสบความสำเร็จ…และนี่แหละครับ คือความพยายามที่ทำให้คนทั่วไปมองเขาว่าเป็นอัจฉริยะ

นอกจาก Thomas Edison จะเป็นที่น่ายกย่องในเรื่องของความพยายามแล้ว สิ่งที่ทำให้
เค๊ามาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จได้อีกประการหนึ่งก็คือ “วิธีการคิด” ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ เค๊าคิดในแง่บวกเสมอ…เค๊ามองสิ่งที่ทุกคนเรียกว่าความล้มเหลว เป็นบทเรียน…นั่นก็คือ การทดลองที่ผิดพลาด ถ้าหากเค๊ามองว่าการทดลองที่ผิดพลาดนับหมื่นๆครั้งเป็นความล้มเหลวอย่างที่คนทั่วไปโดยส่วนใหญ่มองกัน ป่านนี้เราก็คงไม่มีหลอดไฟใช้กันอย่างแน่นอน แต่ Thomas Edison กลับมองว่า การทดลองที่ล้มเหลวนั้น เป็น “การค้นพบวิธีการทดลองใหม่ ที่จะทำให้ไม่สำเร็จ”…เมื่อคิดได้เช่นนี้ มันทำให้ดูเหมือนว่า ยิ่งทดลองก็ยิ่งได้ประโยชน์…ถ้าไม่ได้ความสำเร็จ ก็ได้รู้วิธีที่ทำแล้วล้มเหลวเผื่อจะได้ไม่ทำอีก… 

ซึ่งด้วยความคิดแบบนี้เอง ทำให้การทดลองของเค๊าแม้จะล้มเหลวสักกี่ครั้ง เขาก็จะไม่ย่อท้อที่จะทำมันต่อไป มันเป็นการสร้างพลังที่ดีมาก ดังนั้น “การคิดบวก” ก็ถือเป็นพลังที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเช่นกันครับ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ 

ใครก็ตามที่กำลังพยายามทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่…เราพบเจอความล้มเหลวมากี่ครั้งแล้ว…มากเท่า Thomas Edison หรือยัง 

ถ้ายัง เราก็ควรที่จะพยายามต่อไป

หากเราคิดว่าทางที่เรากำลังเดินไปอยู่นั้นเป็นทางที่ถูกต้องแล้ว ก็แนะนำให้เดินต่อไปนะครับ อย่าหวาดหวั่นกับอุปสรรคปัญหาต่างๆ เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมเกิดขึ้นได้หลังจากการฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่างๆ…ความสำเร็จเหล่านั้น อาจเกิดขึ้นห
ลังจากการฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่างๆหรือความล้มเหลวครั้งที่ 99 หรือครั้งที่ 10,000 ก็อาจเป็นได้…อย่าท้อแท้ที่จะต้องเจอกับอุปสรรคขวากหนามที่ขวางกั้นอยู่ข้างหน้า เก็บความล้มเหลวเหล่านั้นมาเป็นประสบการณ์ มาสอนตัวเอง เพื่อต่อยอดไปสู่เส้นทางของความสำเร็จต่อไป

คนเราจะประสบความสำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะเสมอไป คนเราสามารถประสบความสำเร็จได้เพราะความพยายามก็มีเยอะแยะ ถมเถไป

แล้วเราหละ....วันนี้ได้พยายามทำอะไรมั่งหรือยัง...

No comments:

Post a Comment