Friday, February 5, 2010

กบในกะลา มันร้องอ๊บอ๊บ

พอดีช่วงนี้พี่ J ว่างจากการทำงาน และการเรียน ก็เลยได้มีโอกาสเข้ามาเขียน blog ให้ชาวบ้านชาวช่องเค๊าอ่านกัน
เอาหน่า อ่านเล่นๆ ขำๆ สนุก ไม่ซีเรียส อาจมีแอบเสียดสีบ้างเล็กน้อย พอเป็นกระสัย

วันนี้ขอเขียนถึงเรื่องของ กบ ก็แล้วกัน แต่เผอิญว่า ไอ้เจ้ากบตัวนี้ ไม่ใช่กบธรรมดาทั่วไปครับ เพราะเค๊าเป็นกบในกะลา
กบในกะลาเหรอ อืมมมมมมมมมมม ก็จะมีวิสัยทัศน์แคบๆนะ เพราะโลกทั้งใบของเขา มันก็อยู่แค่ในกะลาแค่นั้นเองจริงๆ
กบในกะลา ไม่ค่อยรู้เรื่องโลกภายนอกอะไรกับเค๊าหรอก เพราะวันๆก็ กิน นอน ขอ สระอี ไม้โท อยู่ในนั้น (สะกดเองนะ สะกดกันได้ป๊ะเนี๊ยะ)
กบในกะลา ก็จะความคิดในแบบของเค๊าเอง แบบกบๆหนะ ก็เพราะอยู่แต่ในกะลา เค๊าก็จะคิดว่าโลกของคนอื่นจะเหมือนกับโลกของเขา เพราะว่าเค๊าไม่เคยได้ไปสัมผัสโลกของคนอื่นเลย เพราะโลกที่เค๊ามี มันก็มีอยู่แค่ในกะลา กว้าง สูง ยาว ก็เท่าๆที่พวกเราเห็นแหละ นั่นหละ โลกของน้องกบเค๊าเลยนะ

กบในกะลา ส่วนมากก็จะพึงพอใจ กับกะลาที่เค๊ามีอยู่
ณ ตรงจุดนี้ พี่ J ก็ว่าดีนะ เพราะเค๊าก็คงจะมีความสุขของเค๊า ความสุขแบบกบๆหนะ และเค๊าก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ซึ่งตรงนี้ ก็ดี แต่ถ้าเลือกที่จะเป็นกบในกะลา เวลามีคนมาชี้แนะแนวทาง นำแสงสว่างมาให้ กบก็น่าจะรับฟังสักนิดหนึ่งก็ยังดี อันนี้ก็สืบเนื่องมาจาก blog ก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของบัว เรื่องหยักในสมอง และ เรื่องที่ คนเรานั้นได้มาไม่เท่ากันจริงๆ

กบในกะลา ฟ้าก็คงให้มาไม่เท่ากันจริงๆ เพราะถ้าไม่งั้น คงไม่มีกบทั้งนอกและในกะลาหรอก เพราะพี่ J ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่า ทำไมกบบางตัว ถึงได้ชอบจังเลยที่จะอยู่ในกะลา

ไอ้เรานะ บางทีเห็นกบนะ ก็อยากเหลือเกินที่จะเปิดกะลาให้เค๊าได้ออกมาข้างนอกบ้าง ได้สัมผัสกับโลกภายนอก มีวิสัยทัศน์ใหม่ๆ กว้างกว่าเดิม แต่โอพระแม่เจ้า กบบางตัวคงเกิดมาเพื่อที่จะอยู่ในกะลาจริงๆ สงสัยคงเป็นกรรมเก่าหละมั๊ง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เราก็คงต้องปล่อยวางแล้วหละ คงต้องแล้วแต่กรรมใครกรรมมันที่สร้างกันมา เพราะถ้าเรามัวแต่มายุ่งอยู่กับกบ เราก็คงไม่ได้ทำอะไรเลย สุดท้ายครับ เราก็ต้องปล่อยวาง และเราก็จะได้ดำเนินชีวิตของเราต่อไปอีก ชีวิตนี้มีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะแยะ สุดท้ายแล้ว เราก็คงต้องปล่อยกบให้อยู่ในกะลานั้นต่อไป อาจจะเป็นกะลาเคลือบทองก็ได้นะ ขำกลิ้ง :)